Page 49 -
P. 49

ิ
                                        ์
                        ื
                           ิ
                                           ิ
                                                                                ุ
    โครงการพัฒนาหนังสออเล็กทรอนกสเฉลมพระเกียรต สมเด็จพระเทพรตนราชสดาฯ สยามบรมราชกุมาร                  ี
                                                       ิ
                                                                       ั
                     3.1  ความถี่ในการออกก�าลังกาย
                          ความถี่ (Frequency) ในการออกก�าลังกาย แม้ว่าการออกก�าลังกาย 2 ครั้งต่อ
            สัปดาห์ อาจท�าให้เห็นการพัฒนาสมรรถภาพของระบบหัวใจและการหายใจได้ แต่โดยท่วไปแล้ว
                                                                                    ั
            การออกก�าลังกายน้อยกว่า 2 ครั้งสัปดาห์ จะไม่เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงตามเป้าหมายที่ต้องการ
                                         ี
                     ี
                                        ี
            ในผู้ใหญ่ท่ต้องการมีสมรรถภาพท่ด ตามคู่มือ ACSM (2018) แนะนาให้ออกกาลังกายแบบท่มีการ
                                                                                       ี
                                                                           �
                                                                   �
            ฝึกความอดทนของระบบหัวใจและการหายใจ (Cardiorespiratory endurance training) สัปดาห์
            ละ 3-5 วัน โดยมีการฝึกที่ความหนักระดับปานกลางและค่อนข้างหนัก นอกจากนี้คู่มือ ACSM ยัง
            แนะน�าให้ฝึกความอดทนและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (Muscle endurance and Strength
                                  �
            training) โดยใช้การออกกาลังกายแบบมีแรงต้าน 2-3 วันต่อสัปดาห์ และกล้ามเนื้อแต่ละกลุ่มควร
            ได้พกอย่างน้อย 48 ชวโมงก่อนการฝึกครงต่อไป เพ่อให้กล้ามเน้อได้ฟื้นฟและพัฒนาอย่างเตมท  ี ่
                                               ั
                                               ้
                               ่
                               ั
                                                                         ู
                                                       ื
                                                                                         ็
                                                                  ื
                ั
            นอกจากนี้ ควรมีการฝึกความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ (Muscle Flexibility) อย่างน้อย 2-3 วันต่อ
            สัปดาห์ หากสามารถยืดเหยียดกล้ามเนื้อ (Stretching) ได้ทุกวันก็จะดีมาก และในการออกก�าลัง
                                    ื
                                                                                    �
            กายจะต้องมีการยืดกล้ามเน้อในช่วงอบอุ่นร่างกาย และช่วงผ่อนคลายหลังการออกกาลังกาย
            ทุกครั้ง
                          ในการฝึกระบบประสาทกล้ามเนื้อ (Neuromuscular Training) การฝึกเพื่อให้
                    �
                                                        ื
            เกิดการทางานร่วมกันของระบบประสาทและกล้ามเน้อ  และรวมไปถึงกิจกรรมท่จะฝึกการทรงตัว
                                                                              ี
            ความกระฉับกระเฉง ความสามารถและความสัมพันธ์ของส่วนต่างๆ ของร่างกาย (Proprioception)
            โดยได้แนะน�าให้มีการฝึกแบบนี้ในผู้ใหญ่ทุกคน 2 – 3 วันต่อสัปดาห์ และยังแนะน�าในผู้สูงอายุที่
            หกล้มบ่อย หรือผู้ที่มีความบกพร่องทางการเคลื่อนไหว ตัวอย่างกิจกรรมที่เป็นการฝึกแบบนี้ เช่น
            ไท้เก๊ก ไอชิ (Ai chi คล้ายกับไทเก๊ก แต่ฝึกในน�้าระดับไหล่) ไพโยชิ (Pi-Yo-Chi) พิลาทิส โยคะ และ
            การออกก�าลังกายในน�้า


                    3.2  ความหนักของการออกก�าลังกาย

                                                                                    ี
                                                                                ี
                                                                                  ั
                          ความหนักของการออกกาลังกาย (Intensity) สามารถวัดได้หลายวิธ ท้งน้ผู้ฝึกสอน
                                              �
            การออกกาลังกายควรเข้าใจเก่ยวกับวิธีในการวัดความหนักของการออกกาลังกาย   ในการก�าหนด
                                     ี
                     �
                                                                       �
            ความหนักสามารถใช้ค่าปริมาณการใช้ออกซิเจนสูงสุด อัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด ระดับความ
            เหนื่อย ค่าใดค่าหนึ่งก็ได้
                          ความสามารถในการใช้ออกซิเจนสูงสุด (Maximal oxygen uptake;
            VO2max) คือ ปริมาณการใช้ออกซิเจนสูงสุด เป็นปริมาณออกซิเจนที่ถูกร่างกายใช้ไป สามารถ
            หาได้จากการวัดความแตกต่างระหว่างปริมาณออกซิเจนท่หายใจเข้าและออกด้วยเคร่องวิเคราะห์
                                                            ี
                                                                                 ื
            แก๊ส โดยการวัดปริมาณการใช้ออกซิเจน ณ จุดที่ผู้ออกก�าลังกายเหนื่อยจนหมดแรง ตัวอย่างวิธี

            42 การออกก�าลังกาย
   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54