Page 40 -
P. 40

ิ
                                   ื
                      โครงการหนังสออเล็กทรอนกสด้านการเกษตร เฉลมพระเกียรตพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
                                                                 ิ
                                     ิ
                                              ิ
                                                ์
                                                           38

                  -CH3-(methylcobalamine)  และ  5deoxyadenosine  (adenosylcobalamin)  เป็นรูปที่ใช้

                  ประโยชน์ได้ ไวตามินบี 12 ที่มีจ าหน่ายจะอยู่ในรูปผลึกของ Cyanocobalamin ซึ่งมีความเสถียรสูงใน
                  การน ามาผสมในอาหารสัตว  ์




                         ไวตามินซี (Ascorbic acid)


                         ไวตามินซี (vitamin C) หรือ กรดแอสคอร์บิก (Ascorbic acid) เป็นไวตามินที่ละลายในน้ า ใน

                  สัตว์หลายชนิดสังเคราะห์ไวตามินซีได้จากกลูโคสที่ตับ   แต่ในคนและสัตว์บางชนิดไม่สามารถสร้างไว

                  ตามินซีได้เองเพราะขาดเอนไซม์ Gulonolactonr oxidase ไวตามินซีมีโมเลกุลคล้ายกับน้ าตาลกลูโคส

                  ธรรมชาติของไวตามินซีเป็น  L-ascorbic  acid  (มีน้ าหนักอณู  176)  เป็นไวตามินที่ไม่มีสี  เป็นผลึก  มี

                  คุณสมบัติละลายน้ าได้และมีฤทธิ์เป็นกรด  นอกจากนี้ยังมีสมบัติเป็นสารที่มีฤทธิ์รีดิวส์อย่างแรง  เมื่อถูก

                  ออกซิไดส์แล้วจะเปลี่ยนเป็น  L-dehydroascorbic  acid  มีความคงทนต่อกรดที่ร้อน  แต่ถูกท าลายได ้

                  ง่ายในด่างและปฏิกิริยาจะเร็วขึ้น เมื่อไวตามินนี้ถูกกับแสงสว่างและโลหะบางชนิด



                         บทบาทของไวตามินซี  มีบทบาทส าคัญในขบวนการ  Oxidation-reduction  ต่างๆ  ในเซลล์

                  สิ่งมีชีวิต  ไวตามินซีเกี่ยวข้องกับกระบวนการ  Collagen  hydroxylation  ท าให้คอลลาเจนมีความ

                  แข็งแรงและคงตัวมากขึ้น  ซึ่งคอลลาเจนเป็นเส้นใยที่ท าหน้าที่เชื่อมเนื้อเยื่อต่างๆไว้ด้วยกัน  ช่วยให้แผล

                  สดและแผลไฟไหม้หายเร็วขึ้น  ช่วยให้การดูดซึมธาตุเหล็กดีขึ้น  ซึ่งเป็นการสร้างเม็ดเลือดทางอ้อม  ช่วย

                  ป้องกันการกลาย  (Mutation)  ช่วยแก้เลือดออกตามไรฟัน  ลดคลอเลสเตอรอลในเลือด  ช่วยลด

                  ความเครียด ช่วยระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ไวตามินซียังมีความส าคัญต่อการสร้างคาร์นิทีน (Carnitine)

                  ซึ่งจ าเป็นส าหรับการขนส่งกรดไขมันเข้าไปในไมโตคอนเดรีย (Mitochondria) เพื่อสร้าง ATP นอกจากนี้

                  การสร้างฮอร์โมนนอร์อิพิเนฟริน  (Norepinephine)  ก็ต้องอาศัยไวตามินซีและสมบัติอีกอย่างของไว

                  ตามินซี  คือ  เป็นตัวต่อต้านสารต้านอนุมูลอิสระที่ส าคัญที่ละลายในน้ า  เช่นเดียวกับการที่ไวตามินอีเป็น

                  สารต้านอนุมูลอิสระที่ส าคัญที่ละลายในไขมัน


                         แหล่งของไวตามินซี  คือ  ไวตามินซีส่วนใหญ่มาจากอาหารที่เป็นพืช  ในสัตว์มีน้อย  ยกเว้นที่ไต

                  อาหารที่มีไวตามินซีมากได้แก่  ในใบผักสีเขียวและผลไม้  ความต้องการไวตามินซีในสัตว์แต่ละชนิดจะมี

                  ความต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นกับการเลี้ยงและความเครียด นอกจากนี้ไวตามินซีในรูป Ascorbic acid ยังไม่ทน







                   บทที่ 1   บทบาทและความส าคัญของอาหารสัตว์ต่อการผลิตปศุสัตว์
   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44   45