Page 18 -
P. 18
ิ
์
ิ
ิ
ิ
ื
โครงการหนังสออเล็กทรอนกสด้านการเกษตร เฉลมพระเกียรตพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
16
3. โอลิโกแซคคาไรด์ (Oligosaccharides) เกิดจากการรวมตัวกันของน้ าตาลโมเลกุลเดี่ยว 3-
9 โมเลกุล ได้แก่
-มอลโตไตรโอส (Maltotriose) เกิดจากการรวมตัวของน้ าตาลกลูโคส 3 โมเลกุล
มอลโต-ไตรโอสเป็นผลผลิตจากการย่อยแป้งโดยเอนไซม์อะไมเลส (Amylase)
- ชราฟฟิโนส (Raffinose) เกิดจากการรวมตัวของน้ าตาลซูโคสและกาแลคโทส ราฟ
ฟิโนสพบได้ในเมล็ดพืชตระกูลถั่ว ร่างกายไม่สามารถย่อยราฟฟิโนส จึงเหลือเป็นกากให้แบคทีเรียย่อย
กลายเป็นแก๊ส นอกจากนี้ยังมีฟรักโตโอลิโกแซคคาไรด์ (Fructooligosaccharide) อินูลิน
(Inulin) กาแลค-โตโอลิโกแซคคาไรด์ (Galacto-oligosaccharide) เป็นต้น ซึ่งสารเหล่านี้ยังจัดเป็นพ
รีไบโอติกอีกด้วย
4. น้ าตาลโมเลกุลใหญ่ (Polysaccharides) เกิดจากการรวมตัวกันของน้ าตาลโมเลกุลเดี่ยว
จ านวนมาก ซึ่งสามารถแบ่งตามสูตรโครงสร้างได้เป็น 2 กลุ่ม คือ Homopolysaccharides และ
Heteropolysaccharides
4.1 Homopolysaccharides เกิดจากการรวมตัวกันของน้ าตาลโมเลกุลเดี่ยว
(Monosaccharides) ชนิดเดียวกันจับตัวเป็นสายยาว ซึ่งสามารถแบ่งย่อยได้เป็น 4 ชนิด ดังนี้คือ แป้ง
(Starch) ไกลโคเจน (Glycogen) เซลลูโลส (Cellulose) และไคติน (Chitin)
- แป้ง (Starch) เกิดจากการรวมตัวกันของน้ าตาลกลูโคสต่อกันเป็นจ านวนมาก แป้ง
พบได้ในพืช โดยสะสมอยู่ในเมล็ด ราก หัว ล าต้นและใบของพืช เช่น ข้าว มัน เผือกและกลอย เป็นตน
้
แป้งประกอบดวย อะไมโลส (Amylose) และอะไมโลเพคติน (Amylopectin) โดยอะไมโลสพบได้
้
ประมาณ 15-20% อะไมโลสเกิดจากการรวมตัวกันของกลูโคสตั้งแต่ 100-1,000 โมเลกุล เชื่อมต่อกัน
ด้วย α-1,4 glycosidic bond ซึ่งมีโครงสร้างขดเป็นเกลียวยาว ไม่แตกแขนงและถูกย่อยด้วยเอนไซม์
α-amylase ในขณะที่อะไมโลเพกติน (Amylopectin) พบได้ประมาณ 80-85% อะไมโลเพกตินเกิด
จากการรวมตัวกันของกลูโคสตั้งแต่ 300-6,000 โมเลกุล เชื่อมต่อกันด้วย α-1,4 linkages และแตก
แขนงด้วย α-1,6 linkages ซึ่งพบการแตกแขนงทุกๆ 25-30 glucose residues
-ไกลโคเจน (Glycogen) หากร่างกายมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป ร่างกายจะ
เปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตส่วนเกินนี้ให้อยู่ในรูปของไกลโคเจนและเก็บสะสมไว้ในตับและกล้ามเนื้อ บางครั้ง
บทที่ 1 บทบาทและความส าคัญของอาหารสัตว์ต่อการผลิตปศุสัตว์