Page 44 -
P. 44
ิ
ื
โครงการหนังสออเล็กทรอนกสด้านการเกษตร เฉลมพระเกียรตพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ิ
ิ
ิ
์
ลูกกระบือหย่านมไปเลี้ยงต่างหาก มีอาหารเสริมในช่วงเวลาเช้า-เย็นจะท าให้ลูกกระบือหย่านมเจริญเติบโตเร็ว
ขึ้น เนื่องจากกระบือในช่วงอายุ 1-2 ปี จะมีอัตราการเจริญเติบโตสูงที่สุดของช่วงชีวิต หากดูแลแม่กระบือหลัง
คลอดให้มีสภาพร่างกายสมบูรณ์มาโดยตลอด แม่กระบือจะกลับสัดช่วงหลังคลอด 45-60 วัน หรืออย่างช้าไม่
ั
เกิน 100 วัน เมื่อได้รับการผสมพนธุ์และอมท้อง จะมีช่วงห่างการตกลูก (calving interval) ประมาณ 13-14
ุ้
เดือนเท่านั้น แม่กระบือบางตัวสามารถกลับหลังคลอดได้เร็วกว่านี้ แต่เนื่องจากการกลับคืนสู่สภาพเดิมของ
ู่
มดลูกยังไม่สมบูรณ์ หากมีการผสมติด ตัวออนก็ไม่สามารถฝังตัวได้ ปกติการเข้าอของมดลูกใช้เวลาประมาณ
่
ุ้
45 วัน ดังนั้นควรปล่อยให้แม่กระบือกลับสัดในรอบต่อไป การผสมติดและการอมท้องจะเกิดขึ้นตามมา การ
อมท้องในครั้งนี้เกิดขึ้นพร้อมกับการสร้างน้ านมเลี้ยงลูกตัวที่ผ่านมา แม่กระบือที่ได้รับการผสมพนธุ์หลังคลอด
ุ้
ั
ต้องได้รับการดูแลอย่างดี ไม่ให้กระทบกระเทือนอย่างรุนแรง เพื่อให้การฝังตัวของตัวอ่อนในมดลูกเป็นไปอย่าง
่
สมบูรณ์ ขณะเดียวกันลูกออนหลังคลอดอายุ 1-3 เดือนจะมีอตราการตายสูงมาก ควรดูแลระมัดระวังอย่าง
ั
ใกล้ชิด สาเหตุส่วนใหญ่มาจากโรคท้องเสีย จากเชื้อซาลโมเนลลา หรืออโคไล ควรเฝ้าระวังสังเกตการ
ี
เปลี่ยนแปลงดังกล่าว หากพบว่ามูลลูกกระบือเหลวมาก สีออกเหลืองครีม มีกลิ่นเหม็นมาก ต้องท าการรักษา
โดยเร็วก่อนที่ลูกกระบือจะมีอาการหนักมากกว่านี้ ยาปฏิชีวนะที่แนะน าได้แก่ ออกซีเตตร้าซัยคลีน หรือซัลฟา
ไตรเมโทรปรีม เป็นต้น รวมทั้งคอยติดตามอาการอย่างใกล้ชิด หากปล่อยให้อาการหนักโอกาสการหายกลับคืน
สู่ปกติจะน้อยมาก การสูญเสียลูกกระบือส่วนใหญ่เกิดจากการปล่อยให้เกิดอาการหนักแล้วค่อยท าการรักษา
ซึ่งมักจะไม่ได้ผล
ื
3.2 การจัดการกระบอรุ่นหลังจากหย่านม อายุ 8 เดือนขึ้นไป หากได้รับการเลี้ยงดูแลดีมาตั้งแต่
ต้น เพศเมีย จะมีน้ าหนักประมาณ 200-250 กิโลกรัม ส่วนเพศผู้มีน้ าหนัก 250-300 กิโลกรัม การเลี้ยงดู
กระบือรุ่นหลังจากหย่านมแม่ โดยการแยกให้อยู่เป็นกลุ่มย่อย 2-4 ตัว ขนาดเท่า ๆ กัน ในช่วงเวลาเช้าเย็น มี
การเสริมอาหารทั้งอาหารหยาบสด (หยาบแห้ง/หญ้าหมักหรือฟางหมักยูเรีย) และอาหารข้น (อดเม็ด/อาหาร
ั
ื่
ผสม) หรือวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น เปลือกข้าวโพด ฝักจามจุรี เพอให้กระบือรุ่นมีการเจริญเติบโต
อย่างต่อเนื่อง ไม่หยุดชะงักเมื่อแยกจากแม่ ควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคแท้งติดต่อ (คุ้มโรคนาน 7 ปี) ให้กับ
กระบือเพศเมียเท่านั้น ส่วนวัคซีนป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อย และโรคคอบวม (เฮโมรายิกเซพติซีเมีย) ควร
ฉีดครั้งแรกเมื่ออายุ 6 เดือน และฉีดซ้ าอกทุก ๆ 6 เดือน ควรเลี้ยงดูแลตามปกติ ช่วงอายุตั้งแต่หลังหย่านม
ี
จนถึงอายุ 2 ปี กระบือจะมีอตราการเจริญเติบโตสูงที่สุดในชีวิต อาจมีอตราการเจริญเติบโตได้สูงถึง 800-
ั
ั
ี
1200 กรัมต่อวัน ให้กระบือได้รับอาหารอย่างเพยงพอตามความต้องการ อาหารหยาบอาจเป็นหญ้าธรรมชาติ
หรือหญ้าที่ปลูกไว้ก็ได้ ส่วนอาหารข้นเสริมก็ปรับตามอาหารหยาบที่ให้กระบือกิน อาจเป็นอาหารข้นอดเม็ด
ั
ื่
ื้
ี
หรืออาหารผสมแบบผง เพอให้กระบือได้รับโภชนะเพยงพอกับความต้องการ ควรเสริมในช่วงเช้าเย็น ในพนที่
ี
ที่มีอาหารหยาบเพยงพออาจเสริมอาหารหยาบในเวลากลางคืนก็ได้ หรือปล่อยให้แทะเล็มในแปลงบริเวณใกล้
โรงเรือนพกนอนก็ได้ เพราะกระบือชอบแทะเล็มหญ้าในช่วงเวลาที่มีอากาศเย็นสบาย แต่ต้องมีน้ าให้ดื่มกิน
ั
อย่างเพยงพอ แร่ธาตุก้อนควรผูกไว้ในโรงเรือนที่มีหลังคาสามารถบังแดดฝนได้ เพอให้กระบือเจริญเติบโตเพิ่ม
ี
ื่
น้ าหนักตัวได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อกระบืออายุได้ประมาณ 2 ปี เพศเมียจะมีน้ าหนักประมาณ 350-400 กิโลกรัมหรือมากกว่านี้
ขึ้นอยู่กับการจัดการเลี้ยงดู ส่วนเพศผู้อาจมีน้ าหนักประมาณ 450-600 กิโลกรัม ควรแยกกระบือเพศผู้ออก
จากฝูงเมื่อเริ่มแสดงพฤติกรรมการไล่ปีนทับเพศเมีย จะท าให้ความสนใจในการกินอาหารลดลง อาจมีผลเสีย
ต่ออัตราการเจริญเติบโตช้าลงกว่าที่ควรจะเป็น เนื่องจากกระบือเพศเมียบางตัวเริ่มแสดงอาการเป็นสัด แต่ก็ยัง
ั
ไม่ควรได้รับการผสมพนธุ์ เนื่องจากยังมีขนาดเล็ก การเจริญเติบโตทางด้านโครงร่างยังไม่สมบูรณ์ ควรจัดการ
คู่มือการผลิตกระบือพันธุ์ส าหรับผู้ประกอบการ | 37