Page 41 -
P. 41
ิ
ื
โครงการหนังสออเล็กทรอนกสด้านการเกษตร เฉลมพระเกียรตพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ิ
์
ิ
ิ
บทที่ 4
การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตกระบือ
ิ่
ี่
การเพมประสิทธิภาพการเลี้ยงกระบือปลักไทยมีปัจจัยที่เกยวข้องหลายประการ ประกอบด้วย
ั
่
ั
์
1. พันธุ์สัตว พอแม่พนธุ์ที่เลี้ยงควรมีขนาดใหญ่ ลักษณะตรงตามพนธุ์ มีความสวยงามตามแบบฉบับ
ื่
ั
กระบือปลักไทย แม่พนธุ์ควรมีอายุ 5-7 ปี เพอให้สามารถผลิตน้ านมเลี้ยงลูกได้จ านวนมาก ท าให้ลูกกระบือ
เจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว เมื่อถึงระยะหย่านมจะมีน้ าหนักได้ตามมาตรฐานที่ก าหนด หากน้ าหนักตัวแม่
กระบือหลังคลอดเกิน 600 กิโลกรัม และได้รับการดูแลอย่างดีในช่วงหลังคลอด ลูกกระบือจะมีน้ าหนักหย่านม
ได้ประมาณ 200-250 กิโลกรัม และหากได้รับการเลี้ยงดูดีอย่างต่อเนื่องเมื่ออายุ 1 ปีจะมีน้ าหนักประมาณ
350-400 กิโลกรัม ส่วนแม่กระบือหลังคลอดหากได้รับการดูแลอย่างดีต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงก่อนคลอดจะ
ั
สามารถกลับสัดพร้อมผสมพันธุ์ได้ช่วงหลังคลอดประมาณ 45-60 วัน ถ้าได้รับการผสมพันธุ์และอุ้มท้องแม่พนธุ์
จะสามารถให้ลูกตัวต่อไปห่างจากตัวก่อน (calving interval) เพยง 12-13 เดือนเท่านั้น จุดส าคัญคือแม่พนธุ์
ั
ี
ต้องมีสภาพร่างกายที่สมบูรณ์ตลอดช่วงเวลาดังกล่าว
2. อาหารสัตว ที่สมบูรณ์เพยงพอกับความต้องการ เนื่องจากต้นทุนส่วนใหญ่ 50-70 เปอร์เซ็นต์มา
์
ี
ั
จากค่าอาหาร ดังนั้นปัจจัยด้านอาหารจึงมีความส าคัญเป็นอนดับต้น ๆ ของการผลิต ความเข้มข้นของโภชนะ
ในอาหารของกระบือแต่ละระยะ และแต่ละสภาพร่างกายจะแตกต่างกัน เป้าหมายที่ส าคัญของการให้อาหาร
ี
ื่
เพอให้กระบือมีสภาพร่างกายเหมาะสมตามระยะการผลิต เหนือสิ่งอนใดกระบือต้องได้รับโภชนะเพยงพอกับ
ื่
ั
่
ความต้องการเริ่มตั้งแต่แม่พนธุ์กระบือได้รับการผสมพนธุ์เมื่อผสมติดแล้ว ระยะแรกของการตั้งท้องลูกออนใน
ั
ท้องมีการเจริญเติบโตอย่างช้า ๆ มีการพัฒนาให้มีอวัยวะครบถ้วนแต่ยังมีขนาดเล็ก ดังนั้นแม่กระบืออุ้มท้องจึง
ต้องการอาหารไม่มากนัก ควรเอาใจใส่ดูแลอย่าให้ร่างกายมีสภาพผอม (คะแนนสภาพร่างกาย 1.5-2.0) ซึ่ง
แสดงว่าแม่กระบือจะได้รับอาหารไม่เพยงพอ แต่ควรให้มีสภาพร่างกายปานกลาง (คะแนนสภาพร่างกาย 2.5-
ี
3.5) โดยเมื่อมองจากภายนอกจะสังเกตเห็นเพยงซี่โครงรางๆ เท่านั้น อาหารที่ควรได้รับในช่วงดังกล่าวได้แก่
ี
ี
หญ้าสด น้ า และแร่ธาตุอย่างเพยงพอ อาจเสริมฟางข้าวหรือฟางหมักยูเรีย ในช่วงเวลาเช้าหรือเย็นตามสภาพ
ร่างกายที่เป็นอยู่ ในสภาพท้องที่ชนบทอาจเสริมฟางแห้งร่วมกับร าข้าวหรือใบพืชตระกูลถั่วบดหยาบผสมกับร า
ข้าว นอกจากนี้อาจใช้วัสดุเหลือใช้ในท้องถิ่น เช่น ฝักจามจุรี เป็นต้น เสริมในช่วงเช้า-เย็นก็ยิ่งท าให้สภาพ
ร่างกายสมบูรณ์เร็วขึ้น เมื่อแม่กระบือเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการอุ้มท้อง (3 เดือนก่อนคลอด) ลูกในท้องจะมีการ
เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว มีการเพิ่มขนาดและน้ าหนักตัว ดังนั้นแม่กระบือจะต้องการโภชนะจากอาหารจ านวน
มาก หากได้รับอาหารไม่เพยงพอ น้ าหนักตัวแม่กระบือจะลดลงโดยเร็ว ดังนั้นแม่กระบือในช่วงดังกล่าวจะมี
ี
ื่
ความต้องการอาหารมากขน ขณะเดียวกันแม่กระบือต้องสะสมอาหารไว้เพอสร้างน้ านมให้ลูกในช่วงหลังคลอด
ึ้
ด้วย ซึ่งจะสังเกตเห็นว่าแม่กระบือช่วงดังกล่าวจะกินอาหารไม่เลือก และกินอาหารได้มากกว่าปกติ ควรสังเกต
้
สภาพร่างกายอย่างใกล้ชิด ระดับคะแนนร่างกายที่เหมาะสมคือ 4.0-4.5 (อวนจนถึงค่อนข้างอวนมาก)
้
ช่วงเวลาดังกล่าวควรเพิ่มอาหารเสริมให้มากขึ้น ตามสภาพร่างกายที่เป็นอยู่ รวมทั้งดูแลเรื่องน้ าและแร่ธาตุให้
เพียงพอ เนื่องจากในเขตร้อนชื้นอาหารหยาบส่วนใหญ่เป็นหญ้าธรรมชาติ ซึ่งมีโปรตีนต่ าท าให้การเจริญเติบโต
ั
ิ่
และเพมจ านวนเซลล์ของจุลินทรีย์อยู่ในระดับต่ า ส่งผลให้กระบือมีอตราการเจริญเติบโตต่ าไปด้วย ดังนั้นจึง
ิ่
ื
ควรเพมอาหารเสริมโปรตีนให้มากขึ้น เช่น ฟางหมักยูเรีย หรือใบพชตระกูลถั่วในท้องถิ่นบดหยาบผสมร าข้าว
ิ่
จะช่วยให้กระบือได้รับโภชนะเพมขึ้น เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวมีความส าคัญค่อนข้างสูง การเมินเฉยใน
ช่วงเวลาดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อช่วงการผลิตต่อไปเรื่อย ๆ ไม่มีที่สิ้นสุด ดังนั้นต้องดูแลอย่างต่อเนื่องเพอ
ื่
ให้ผลที่ตามมามีประสิทธิภาพสูงสุด และเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ตามธรรมชาติที่เป็นอยู่ ลดความสูญเสีย
ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงระหว่างการเลี้ยงให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เมื่อถึงช่วงเวลาคลอดลูก แม่กระบือ
ื
34 | คู่มอการผลิตกระบือพันธุ์ส าหรับผู้ประกอบการ