Page 104 -
P. 104

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

                                                      ทักษะการแปลภาษาจีนเป็นภาษาไทย

              ของการไป ปัญหาคือผู้เรียนจ านวนมากจะแปลตรงตัวว่า “ฉันไป

              ธนาคารถอนเงิน” ซึ่งไม่ตรงกับวิธีการแสดงออกในภาษาไทย

              อาจารย์ผู้สอนต้องแก้ให้เป็น “ฉันไปถอนเงินที่ธนาคาร” ซึ่งประโยค
              นี  หากไม่มีค าว่า 银行(ธนาคาร) จะสามารถแปลเรียงตัวตรงๆ ไป

              ได้ว่า “ฉันไปถอนเงิน” รูปประโยคในภาษาจีนคือ ประธาน+กริยา+
              (กรรม) + กริยา + (กรรม) ไม่ว่าจะมีกรรมหรือไม่ ก็ยังเรียง

              แบบเดิมได้ ในขณะที่หากมีการบอกสถานที่ในภาษาไทย จะไม่ใช้
              เป็นโครงสร้างกริยาเรียง แต่ใช้เป็นบทขยายภาคแสดง “ที่ธนาคาร”

              และวางไว้หลังกรรม ผู้เขียนพบว่าปัญหาการแปลเรียงตรงๆ โดยไม่

              กลับประโยคให้เหมาะสมกับวิธีแสดงออกในภาษาไทยเช่นนี  แก้ไข
              ง่ายในหมู่ผู้เรียนระดับต้น แต่ถ้าไม่ย  าบ่อยๆ จะเกิดขึ นอย่างต่อเนื่อง

              ในผู้เรียนระดับกลางและสูงหรือแม้กระทั่งระดับนักแปลอาชีพ ซึ่ง
              สาเหตุมาจากการที่ผู้เรียนซึมซับวิธีการถ่ายทอดความหมายแบบ

              ภาษาจีนจนเกิดเป็นความเคยชิน ท าให้เกิดปัญหาลักษณะเดียวกับที่
              เคยเป็นในการเรียนภาษาจีนระดับต้น


                     ประโยคที่ 2 我每个星期天骑自行车去买菜做饭吃。

                     ประโยคนี มีกริยาเรียงกันอยู่ถึงห้าตัวคือ 骑(ขี่)去(ไป)买

              (ซื อ)做(ท า)吃(กิน)แปลได้ว่า “ทุกวันอาทิตย์ฉันขี่จักรยานไปซื อ
              กับข้าวมาท าอาหารกิน” จะสังเกตได้ว่าในประโยคภาษาไทย

              จ าเป็นต้องเติมกริยาเพิ่มอีกตัวหนึ่งคือ “มา” หากขาดการเชื่อม
              ประโยคจะติดขัดทันที เช่น “ทุกวันอาทิตย์ฉันขี่จักรยานไปซื อกับข้าว

              ท าอาหารกิน” ค าว่า “มา” ที่เติมไว้ เชื่อมระหว่างวิธีการและการ


              บทที่ 5 การแปลประโยคที่มีลักษณะพิเศษ                                                      97
   99   100   101   102   103   104   105   106   107   108   109