Page 45 -
P. 45
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
41
2. หยงทำหน้าที่คนกลางในการส่งผ่านราคาจากผู้ส่งออกไปยังโรงสีข้าวได้ดีเพียงใด
หยงคือคนกลางระหว่างผู้ซื้อ (ผู้ส่งออกข้าว) และผู้ขาย (โรงสีข้าว) แต่เดิมหยงเป็นนายหน้าซื้อขายข้าว
เท่านั้น ไม่มีบทบาทในการกำหนดราคาข้าวสารแต่อย่างใด หยงทำหน้าที่ติดต่อระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย หยงจะแจ้ง
ราคาที่ผู้ซื้อเสนอไปยังผู้ขายและราคาเสนอขายไปยังผู้ซื้อ ถ้าผู้ซื้อผู้ขายตกลงจะซื้อขายกัน หยงจะทำหน้าที่
ประสานงานการส่งมอบสินค้า กรณีต้องมีการหักลดราคาค่าคุณภาพข้าวหรือค่าขาดน้ำหนัก หยงจะเป็นผู้
ประสานงานในการเจรจาต่อรองระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายเพื่อกำหนดราคาข้าวสารขั้นสุดท้าย ณ สถานที่ส่งมอบ
หลังจากนั้นผู้ซื้อจะชำระเงินค่าสินค้าให้กับผู้ขายโดยตรงเมื่อครบกำหนดเวลา หยงก็จะได้รับผลตอบแทนเป็นค่า
นายหน้าจากผู้ซื้อหรือผู้ขาย
แต่ในปัจจุบัน สภาพธุรกิจค้าข้าวมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างมาก ผู้ส่งออกกำหนดเงื่อนเวลาในการ
ชำระเงินค่าสินค้ายาวนานขึ้น (ประมาณ 1-2 เดือนหลังจากรับมอบสินค้า) ประกอบกับโรงสีข้าวขนาดเล็กและ
ขนาดกลางประสบปัญหาสภาพคล่อง ทำให้หยงมีโอกาสพัฒนารูปแบบการทำธุรกิจของตน โดยการทำหน้าที่เป็น
ผู้ให้สินเชื่อแก่โรงสีข้าว หยงสามารถชำระเงินค่าสินค้าล่วงหน้าให้กับโรงสี โดยหยงจะรับโอนสิทธิในการรับเงินค่า
สินค้าจากผู้ซื้อแทนโรงสี หยงจะได้รับค่าตอบแทนจากโรงสีเป็นค่านายหน้าบวกด้วยค่าบริการจากการจ่ายเงินค่า
สินค้าล่วงหน้า
นอกจากนั้น ในปัจจุบันหยงสามารถทำธุรกิจราวกับเป็นผู้ค้าข้าวสารเองได้ด้วย เมื่อหยงได้รับคำสั่งซื้อจาก
ผู้ส่งออก หยงจะออกคำสั่งซื้อข้าวจากโรงสีโดยใช้ราคาของตนเองโดยไม่แจ้งราคาผู้ส่งออกให้โรงสีทราบ เพื่อทำ
กำไรจากส่วนต่างระหว่างราคาที่ผู้ส่งออกรับซื้อและราคาข้าวสารที่โรงสีตกลงจะขาย และหยงจะเป็นผู้ชำระเงินค่า
สินค้าล่วงหน้าให้กับโรงสีข้าว หลังจากนั้นหยงจะไปเรียกเก็บเงินค่าสินค้าจากผู้ส่งออก การทำธุรกิจของหยงใน
ลักษณะดังกล่าวทำให้หยงมีบทบาทสำคัญในการกำหนดราคาข้าวสารที่จะเสนอซื้อจากโรงสี อาจเป็นไปได้ว่าเมื่อ
ราคาข้าวส่งออกเพิ่มสูงขึ้นและผู้ส่งออกปรับราคารับซื้อข้าวสารขึ้นไปแล้ว แต่ถ้าหยงคาดการณ์ว่าสามารถทำกำไร
จากส่วนต่างราคาได้ หยงจะไม่แจ้งราคาที่ผู้ส่งออกรับซื้อให้โรงสีทราบ หยงอาจไม่ปรับราคาซื้อให้สูงขึ้นหรือปรับ
ราคาขึ้นน้อยกว่าราคาที่ผู้ส่งออกปรับขึ้น ทำให้โรงสีข้าวขายข้าวได้ในราคาต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งจะส่งผลให้โรงสี
ปรับราคารับซื้อข้าวเปลือกขึ้นน้อยหรือช้ากว่าที่ควรจะเป็น กลไกการส่งผ่านราคาข้าวก็จะไม่สามารถทำงานได้
อย่างสมบูรณ์
อย่างไรก็ตามยังเป็นที่น่าสงสัยว่าหยงมีความได้เปรียบด้านข้อมูลข่าวสารในตลาดมากกว่าโรงสีข้าว
จนกระทั่งหยงมีบทบาทกำหนดราคาข้าวได้จริงหรือไม่ อีกทั้งในปัจจุบันทั้งโรงสีข้าวและผู้ส่งออกพยายามปรับ
รูปแบบการทำธุรกิจโดยมีการขยายตัวในแนวตั้งมากขึ้น โรงสีขนาดใหญ่ผันตัวมาเป็นผู้ส่งออกข้าวเอง ใน
ขณะเดียวกันผู้ส่งออกหันมาใช้บริการหยงซึ่งเป็นบริษัทในเครือของตนเองมากขึ้น การปรับตัวดังกล่าวน่าจะทำให้
กลไกการส่งผ่านราคาข้าวทันต่อเวลาและสะท้อนสภาวการณ์ของตลาดมากยิ่งขึ้น