Page 33 -
P. 33

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว


                                                                                                           29





               3.4 โครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2554/55



                       ภายหลังจากการเปลี่ยนพรรครัฐบาลในการบริหารอีกครั้งหนึ่ง จากรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์สู่รัฐบาล

               พรรคเพื่อไทย นโยบายรับจำนำข้าวทุกเมล็ดเป็นหนึ่งนโยบายประชานิยมที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ภายใต้การนำของ

               นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งเป็นนโยบายที่ได้รับเสียงคัดค้านและท้วงติงจากหลายฝ่าย

               ตั้งแต่เรียงร้องให้ทบทวนยุติโครงการ รวมถึงมีการยื่นต่อศาลปกครอง และศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเป็นโครงการ

               ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อระบบเศรษฐกิจ การเมือง การผลิตและส่งออกข้าว มี

               ช่องว่างในการเกิดปัญหาทุจริต และทำให้ประเทศเดินหน้าสู่วิกฤตหนี้จากการใช้งบประมาณจำนวนมากเพื่อ

               อุดหนุนโครงการ จากการตั้งราคารับจำนำที่สูงกว่าตลาดถึงร้อยละ 50 และทำให้ราคาข้าวของไทยสูงกว่าราคาข้าว

               ในตลาดโลก อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 7 ตุลาคม 2554 ด้วยความต้องการที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร

               รัฐบาลจึงตัดสินใจดำเนินโครงการรับจำนำข้าวต่อไป


                       ภายหลังจากระยะเวลาสองปีที่รัฐบาลดำเนินโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ด รัฐบาลพรรคเพื่อไทยได้


               ตัดสินใจปรับเปลี่ยนนโยบายในวันที่ 19 มิถุนายน 2556 ด้วยการลดราคารับจำนำข้าวจากเดิมที่กำหนดไว้ 15,000

               บาท/ตัน และรับจำนำทุกเมล็ด เปลี่ยนเป็น 12,000 บาท/ตัน และจำกัดปริมาณรับจำนำไม้เกิน 500,000 บาท/

               ครัวเรือน จึงเป็นการยกเลิกการรับจำนำทุกเมล็ดไปโดยปริยาย


                       สาเหตุหลักที่ทำให้รัฐบาลต้องมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าว เนื่องจากรัฐบาลต้องการที่จะลดภาระ

               งบประมาณ และบริหารการคลังให้บรรลุเป้าหมายการจัดทำงบประมาณสมดุลในปี 2560 โดยรัฐบาลจะจำกัด

               วงเงินภาระค่าใช้จ่ายและผลขาดทุนในโครงการรับจำนำไม่เกินปีละ 100,000 ล้านบาท (นิพนธ์, 2556) ประกอบ

               กับรายงานของ Moody’s ที่แสดงความกังวลต่อการขาดทุนในโครงการรับจำนำข้าวกว่า 200,000 ล้านบาท และ

               มีแนวโน้มว่ารัฐบาลต้องใช้เงินเพิ่มเติมอีกจำนวนมากในการรับจำนำ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการลดอันดับความ

               น่าเชื่อถือทางการเงินของประเทศ



                       จากการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขนโยบายดังกล่าว นักวิชาการจากหลายฝ่ายได้แสดงความคิดเห็นว่า การลด

               ราคารับจำนำดังกล่าวจะช่วยแก้ไขปัญหา และลดการขาดทุนได้เพียงบางส่วน เนื่องจากขาดทุนยังเกิดจากการ

               อุดหนุนผู้บริโภค ค่าใช้จ่ายของโครงการ ตลอดจนการขาดทุนที่เกิดจากการทุจริตตลอดกระบวนการอย่างไรก็ตาม
   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38