Page 31 -
P. 31
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
27
โครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2551/52 รัฐบาลได้ใช้งบประมาณในโครงการกว่า 62,222 ล้านบาท
นอกจากนี้รัฐยังต้องทำหน้าที่เป็นผู้ค้าข้าว ซึ่งต้องรับภาระในการจัดเก็บข้าวปริมาณมหาศาลต้องเสียค่าใช้จ่ายใน
การบริหารจัดการจำนวนมาก อีกทั้งโครงการรับจำนำข้าวยังคงมีการช่องว่างอันก่อให้เกิดความเสี่ยงในการทุจริต
ไม่ว่าจะเป็นการสวมสิทธิ์ผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ การเวียนเทียนข้าว สต็อกลม ค่าใช้จ่ายในการสีข้าวและเก็บ
รักษาข้าวเกินจริง เป็นต้น
นอกจากนี้ การรับจำนำข้าวที่สูงกว่าราคาตลาดของรัฐบาล ยังเป็นการแทรกแซงกลไกตลาดข้าว ส่งผลให้
ข้าวไทยเสียเปรียบในการแข่งขันทางการาค้าในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเวียดนามที่มีการส่งออกข้าว
ในราคาต่ำกว่าไทยมาก (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, 2552) หากพิจารณาการส่งออกข้าวในช่วงปี พ.ศ. 2549-
2551 ซึ่งเป็นช่วงการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวที่ผ่านมา พบว่าความแตกต่างของราคาข้าวไทยเวียดนามเพิ่มขึ้น
จากเดิมที่มีความแตกต่างเพียง 10-20 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน กลายเป็นราคาข้าวส่งออกเฉลี่ยของเวียดนามต่ำกว่า
ไทยถึง 100-200 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ซึ่งส่งผลต่อโอกาสที่ไทยจะสูญเสียตำแหน่งประเทศผู้ส่องออกข้าวอันดับ
หนึ่งของโลกในขณะนั้น
นอกจากเหนือจากความเสียเปรียบในการแข่งขันของข้าวไทย ยังมีแรงกดดันจากการเปิดเสรีตลาดข้าวที่
จะเริ่มในช่วงต้น ปี 2553 ซึ่งเป็นปัจจัยผลักดันสำคัญให้ไทยจำเป็นต้องปรับมาตรการแทรกแซงตลาดข้าว
เนื่องจากหากยังคงดำเนินโครงการรับจำนำข้าว จะส่งผลต่อความเสี่ยงในการทุจริต เนื่องจากมีการนำเข้าข้าวจาก
ประเทศกลุ่มอาเซียนเข้ามาหมุนเวียนในประเทศไทยมากขึ้น
นโยบายการประกันราคาข้าวในปีการผลิต 2552/53 นั้น มีแนวคิดหลักคือรัฐบาลต้องการปลดภาระหน้าที่
การเก็บรักษาและระบายข้าวของรัฐ รวมถึงต้องการให้การช่วยเหลือครอบคลุมถึงกลุ่มเกษตรกรที่ไม่มีปริมาณข้าว
เหลือขาย ซึ่งส่วนมากเป็นกลุ่มที่ผลิตข้าวเพื่อบริโภคเองภายในครอบครัว หรือเกษตรกรที่ประสบภัยธรรมชาติจน
เสียผลผลิต โดยกลไกนี้เมื่อฤดูกาลเก็บเกี่ยวรัฐจะให้เงินชดเชยแก่เกษตรกรเป็นส่วนต่าง ก็ต่อเมื่อ “ราคาอ้างอิง”
(ปัทมาวดี ซูซูกิ, 2553) (รัฐเป็นผู้กำหนดโดยกำหนดใกล้เคียงราคาตลาดมากที่สุด) ต่ำกว่า “ราคาประกัน” โดย
เกษตรกรจะมีสิทธิในเงินชดเชย ดังนี้
เงินชดเชยที่ได้รับ = (ราคาประกัน - ราคาตลาดอ้างอิง) x ปริมาณผลผลิตที่เข้าร่วมโครงการ