Page 63 -
P. 63
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ตารางที่ 5-4: ความเร็วในการดูดซึมของน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวชนิดต่างๆ (เมื่อกลูโคส = 100)
น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว ความเร็วในการดูดซึม
กลูโคส 100
กาแลคโตส 110
ฟรุคโตส 43
แมนโนส 19
ไซโลส 15
อาราบิโนส 9
ที่มา: Kirchgessner (1997)
การย่อยและการดูดซึมคาร์โบไฮเดรทสัตว์กระเพาะรวม
สำหรับสัตว์กระเพาะรวมนั้น คาร์โบไฮเดรทในอาหารทั้งแป้ง น้ำตาล และสารคาร์โบไฮเดรท
ที่ไม่ใช่แป้งจะถูกย่อยโดยจุลินทรีย์ในกระเพาะรูเมนซึ่งมีหลายกลุ่ม โดยจุลินทรีย์แต่ละกลุ่ม
ต้องการสารอาหารที่ใช้ในการเจริญเติบโตแตกต่างกัน (ตารางที่ 5-5) ผลที่ได้จากการย่อย
คาร์โบไฮเดรทของจุลินทรีย์จะแตกต่างจากกรณีของสัตว์กระเพาะเดี่ยวที่ผลสุดท้ายได้น้ำตาล
โมเลกุลเดี่ยว แต่ในสัตว์กระเพาะรวมนั้นกลุ่มเยื่อใยในอาหารอาทิ เซลลูโลส เฮมิเซลลูโลส
ฟรุคโตแซน (fructosan) สารเพคตินและคาร์โบไฮเดรทที่ละลายน้ำได้จะถูกหมักย่อยได้เป็น
ไพรูเวท (pyruvate) และผลิตผลสุดท้ายคือกรดไขมันที่ระเหยง่าย (volatile fatty acid:
VFA) อาทิ กรดอะซิติค กรดโปรปิโอนิค และกรดบิวทิริค เป็นต้น (รูปที่ 5-6) แต่เอ็นไซม์จาก
จุลินทรีย์ไม่สามารถย่อยส่วนลิกนินในอาหารได้ ยกเว้นจุลินทรีย์ในกระเพาะรูเมนของสัตว์บาง
ชนิด เช่นกระบือจะสามารถหมักย่อยลิกนินได้ สัดส่วนของกรดไขมันที่ระเหยง่ายทั้ง 3 ชนิด
จะแตกต่างกันขึ้นกับชนิดของคาร์โบไฮเดรทในอาหาร (ตารางที่ 5-6) อาหารที่มีระดับเยื่อใย
สูงจะเกิดสัดส่วนของกรดอะซิติคสูงกว่ากรดโปรบิโอนิคและกรดบิวทีริค แต่หากในอาหารมี
แป้งหรือน้ำตาลในระดับสูงจะเกิดกรดโปรบิโอนิค และกรดบิวทิริคสูงกว่ากรดอะซิติค ซึ่งสัตว์
จะนำกรดไขมันทั้ง 3 ชนิดนี้ไปใช้ประโยชน์ในร่างกายด้วยวิถีทางที่แตกต่างกัน
คาร์โบไฮเดรท 60