Page 68 -
P. 68

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว








                     adenine dinucleotide) ซึ่งจะเข้าสู่ ลูกโซ่การขนส่งอิเลคตรอน (electron –transport

                     system: ETS) ได้ ATP ออกมา (ตารางที่ 5-7)


                     ATP เป็นสารที่มีพลังงานสูงโดย 1 โมเลกุล ATP สามารถให้พลังงานประมาณ 8 กิโลแคลอรี

                     (Kcal) อย่างไรก็ตามประสิทธิภาพในการเปลี่ยนกลูโคสเป็นพลังงานมีค่าเพียง 40–65%

                     เท่านั้น ในสภาพที่ปราศจากออกซิเจน ไพรูเวทที่ได้จากการสลายกลูโคสจะถูกเปลี่ยนไปเป็น

                     กรดแลคติค ซึ่งกรดแลคติคที่เกิดขึ้นสามารถเปลี่ยนกลับไปเป็นไพรูเวทและนำไปสร้างกลูโคส


                     ใหม่ได้เช่นกัน นอกจากวิถีไกลโคไลซีสแล้วกลูโคสยังสามารถเข้าสู่ วิถีเพ็นโตสฟอสเฟต

                     (pentose phosphate pathway) ซึ่งเป็นกระบวนการที่สำคัญในการผลิต nicotina-

                                                                       +
                     mide–adenine-dinucleotidephosphate (NADPH+H ) ที่จำเป็นสำหรับการสร้างกรดนิว
                     คลีอิคและกรดไขมันในร่างกาย




                     สำหรับสัตว์กระเพาะรวม คาร์โบไฮเดรทในอาหารจะถูกจุลินทรีย์ในกระเพาะรูเมนย่อยสลาย

                     ได้เป็นกรดไขมันที่ระเหยง่าย ได้มีการประมาณค่ากรดไขมันที่ระเหยง่ายที่ผลิตในกระเพาะรู

                     เมนของโคนมที่ผลิตน้ำนม 25 กก.ต่อวัน ดังนี้คือ กรดอะซิติคประมาณ 3.5 กก. กรดโปรบิโอ

                     นิค 1.5–3 กก. และกรดบิวทิริค 1–1.5 กก. (Kirchgessner, 1997) กรดไขมันที่ระเหยง่าย

                     เหล่านี้จะดูดซึมผ่านผนังรูเมนเข้าสู่ร่างกาย  แต่มีการดูดซึมน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวต่าง ๆ เข้าสู่


                     ร่างกายน้อยมาก ไม่เพียงพอกับความต้องการของสัตว์   กลูโคสส่วนใหญ่จะได้จากวิถีกลูโคนี-

                     โอเจนเนซีส โดยกรดโปรบิโอนิคจะเดินทางสู่ตับแล้วเปลี่ยนเป็นออกซาโลอะซิเตท

                     (oxaloacetate) และไพรูเวท จากนั้นไพรูเวทจะถูกนำไปสร้างเป็นกลูโคสโดยปฏิกิริยาย้อน-

                     กลับของวิถีการสลายของกลูโคส (รูปที่ 5-7) นอกจากนั้นกลูโคสสามารถถูกสร้างขึ้นได้จาก

                     กรดแลคติกและกรดอะมิโนบางชนิดได้เช่นกัน แต่ร่างกายไม่สามารถใช้กรดอะซิติคและกรด


                     บิวทิริคในการสร้างกลูโคสได้แต่จะใช้เป็นแหล่งพลังงาน  โดยเข้าสู่วัฏจักรเครบและลูกโซ่การ

                     ขนส่งอิเลคตรอน (ตารางที่ 5-7) สำหรับกรดอะซิติคนั้นสัตว์สามารถจะนำไปใช้ในการสร้าง

                     กรดไขมัน โดย-เฉพาะอย่างยิ่งไขมันในน้ำนม ดังนั้นปัจจัยที่มีผลต่อการสร้างกรดอะซิติคใน

                     กระเพาะรูเมนจึงมีผลโดยตรงต่อปริมาณไขมันในนมของสัตว์ด้วย




                     คาร์โบไฮเดรท                                                                     65
   63   64   65   66   67   68   69   70   71   72   73