Page 176 -
P. 176
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
2.2.2 การศึกษาหาค่าการย่อยได้ สามารถดำเนินการได้ 2 วิธี คือ
2.2.2.1 การหาค่าการย่อยได้ในห้องปฏิบัติการ (In vitro method) เป็นการศึกษาค่าการ
ย่อยได้โดยใช้เอนไซม์สังเคราะห์หรือการนำเอนไซม์/ของเหลวจากระบบทางเดินอาหาร
(digesta) หรือจากกระเพาะรูเมนของสัตว์กระเพาะรวม (rumen fluid) มาบ่มกับอาหารหรือ
วัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ต้องการศึกษาในห้องปฏิบัติการ โดยมีการปรับสภาพแวดล้อมให้ใกล้-เคียง
กับการทำงานของเอนไซม์ในตัวสัตว์ วิธีการนี้ใช้ระยะเวลาสั้น สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายน้อยและ
สามารถดำเนินการได้คราวละหลายๆ ตัวอย่าง แต่มีความคลาดเคลื่อนของค่าการย่อยได้มาก
2.2.2.2 การหาค่าการย่อยได้จากตัวสัตว์โดยตรง (In vivo method) เป็นการศึกษาโดย
การนำอาหารหรือวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ต้องการทดสอบไปให้สัตว์กินโดยตรง จากนั้นดำเนิน-
การเก็บตัวอย่างอาหารและมูลที่สัตว์ถ่ายออกมาในช่วงการทดลอง ซึ่งสามารถแบ่งวิธีการเก็บ
ตัวอย่างออกเป็น 2 วิธีคือ
• Conventional method หรือ total collection เป็นวิธีการวัดค่าการย่อยได้
โดยจำเป็นต้องเก็บข้อมูลอาหารและปริมาณมูลทั้งหมดที่สัตว์ขับถ่ายออกมาในช่วงเก็บข้อมูล
ทั้งนี้สามารถคำนวนค่าการย่อยได้ของโภชนะได้จาก
ค่าการย่อยได้(%) = ปริมาณโภชนะที่สัตว์ได้รับ–ปริมาณโภชนะที่ขับออกทางมูล x 100
ปริมาณโภชนะที่สัตว์ได้รับ
• Indicator method เนื่องจากวิธีการ total collection มีความยุ่งยากและเกิด
ความผิดพลาดได้ง่ายจากการเก็บข้อมูลอาหารที่สัตว์กินและปริมาณมูลที่ขับถ่ายออกมาทั้ง-
หมด จึงได้มีการดัดแปลงมาใช้สารบ่งชี้ (indicator) ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารที่ไม่เป็นพิษต่อ
สัตว์ ไม่ทำปฏิกิริยากับอาหาร และไม่ถูกย่อยหรือดูดซึมในระบบทางเดินอาหาร เช่น โครมิค
ออกไซด์ (chromic oxide: Cr O ) ไททาเนียมไดออกไซด์ (TiO ) หรือเซลลูโลส เป็นต้น ค่า
2 3
2
การย่อยได้คำนวณได้จากค่าความเข้มข้นของสารบ่งชี้ที่เปลี่ยนแปลงในอาหารและมูล
ค่าการย่อยได้ (%) = 100 – 100 x % สารบ่งชี้ในอาหาร x %โภชนะในมูล
% สารบ่งชี้ในมูล x % โภชนะในอาหาร
การประเมินคุณค่าทางโภชนะในอาหาร 173