Page 110 -
P. 110

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว








                     ตาราง7-4: ความสัมพันธ์ระหว่างไขมันในอาหารและไขมันที่สะสมในร่างกายของหนูทดลอง


                         ชนิดของไขมันในอาหาร                        ค่า Iodine number

                                                          ไขมันในอาหาร               ไขมันในซาก

                     น้ำมันถั่วเหลือง                          132                      123

                     น้ำมันข้าวโพด                             124                      114

                     น้ำมันจากเมล็ดฝ้าย                        108                      107
                     น้ำมันถั่วลิสง                            102                       98

                     น้ำมันหมู                                  63                       72

                     น้ำมันมะพร้าว                              8                        35

                     ที่มา : Kirchgessner (1997)


                     การย่อยและดูดซึมไขมันในสัตว์กระเพาะรวม



                     • การย่อยไขมัน สัตว์กระเพาะรวมมีการย่อยไขมันแตกต่างจากสัตว์กระเพาะเดี่ยวมาก

                     เนื่องจาก

                     1. ความแตกต่างของชนิดไขมันในอาหาร ไขมันในพืชอาหารหยาบจะประกอบด้วยกาแลค

                     โตลิปิดและไกลโคลิปิด (glycolipid) ซึ่งมีกรดลิโนเลนิค (C ) อยู่สูง ในขณะที่น้ำมันจาก
                                                                          18:3
                     เมล็ดธัญพืชจะประกอบด้วยกรดลิโนเลอิค (C ) อยู่มาก ส่วนน้ำมันจากสัตว์จะมีไตรกลีเซอร์
                                                            18:2
                     ไรด์เป็นส่วนใหญ่

                     2. กิจกรรมของจุลินทรีย์ในกระเพาะรูเมน มีอิทธิพลต่อการย่อยไขมันโดยไตรกลีเซอร์ไรด์

                     จากอาหารส่วนใหญ่จะถูกย่อยในกระเพาะรูเมนด้วยเอ็นไซม์ไลเปสจากแบคทีเรียและโปรโต

                     ซัว ได้เป็นกลีเซอรอล น้ำตาลและกรดไขมันอิสระสายโซ่ยาว โดยกลีเซอรอลและน้ำตาลจะถูก


                     เปลี่ยนเป็นกรดไขมันที่ระเหยง่ายอย่างรวดเร็ว ส่วนกรดไขมันอิสระชนิดไม่อิ่มตัวจะถูกแบคที-

                     เรียทำปฏิกิริยาไฮโดรจิเนชันได้เป็นกรดไขมันชนิดอิ่มตัวซึ่งมักเป็นกรดสเตียริค (stearic acid:

                     C ) และกรดปาล์มมิติค (palmitic acid: C ) เช่นการเปลี่ยนกรดโอลิอิค (oleic acid:
                      18:0
                                                              16:0
                     C ) เป็นกรดสเตียริค (รูปที่ 7-7)
                      18:1




                     ลิปิด                                                                           107
   105   106   107   108   109   110   111   112   113   114   115