Page 82 -
P. 82
โครงการรวบรวมและจัดทําวารสารอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
3.2 ด้านกลสัทศาสตร์: ความเข้มข้นของเสียงหรือความดัง ผลการศึกษา มีดังนี้
ตารางที่ 2 แสดงค่าความเข้มข้นของเสียง (intensity) ของท�านองมคธและสังโยค
ความเข้มข้นของเสียง (intensity) ค่าเฉลี่ย (mean) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)
ท�านองมคธ 74.91 db. 11.40 db.
ท�านองสังโยค 70.59 db. 4.91 db.
ภาพที่ 6 ความเข้มข้นของเสียงหรือความดัง ในท�านองมคธ (ซ้าย) และท�านองสังโยค (ขวา)
จากตารางที่ 2 และภาพที่ 6 แสดงให้เห็นว่า ทั้งสองท�านองมีความคงที่สม�่าเสมอของความเข้ม
ข้นของเสียงที่ต่อเนื่อง โดยมีค่าเบี่ยงเบน S.D. = 11.40 db. และ 4.91 db. ของท�านองมคธและสังโยค
ตามล�าดับ ชี้ให้เห็นว่า ในแต่ละท�านองมีการรักษาระดับความเข้มข้นของเสียงหรือความดังให้คงที่ระดับเดียว
โดยตลอด (mono-intensity หรือ mono-amplitude) โดยคณะที่สวดท�านองมคธมีค่าเฉลี่ยความเข้มข้น
ของเสียง (mean intensity) 74.91 db. สูงกว่าคณะที่สวดท�านองสังโยคซึ่งมีค่าเฉลี่ย (mean intensity)
70.59 db. แต่เนื่องจากเป็นคณะสงฆ์ต่างคณะ จึงไม่อาจกล่าวได้ว่าในภาพรวมการสวดท�านองมคธจะสวด
เสียงดังกว่าท�านองสังโยคซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องศึกษาต่อไป
3.3 ด้านกลสัทศาสตร์: ความยาวนานของเสียง
หลังจากแยกพยางค์ตามโครงสร้างโดยอาศัยขอบเขตตามที่อธิบายไว้ก่อนหน้านี้ และน�าความ
ยาวนานของเสียงแต่ละพยางค์มาหาค่าเฉลี่ย (mean) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) แล้ว แสดง
รายละเอียดโดยมีค่าตัวเลขเป็นวินาที (sec.) โดยที่ C = พยัญชนะ, V = สระ ดังนี้
74 วารสารมนุษยศาสตร์ ปีที่ 18 ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2554