Page 87 -
P. 87

โครงการรวบรวมและจัดทําวารสารอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์





                       ท�านองสังโยค

                                                                   
                           /     |    |    |  |     /  |  |  /         |  |

              พยางค์       [กะ  ตา  เม  รัก  ขา  กะ  ตา  เม  ปะ  ริต  ตา]      P
              เวลา(sec.)   |0.30|0.56|0.61|0.55|0.55|0.31|0.59|0.53|0.34|0.52|0.50|

              น�้าหนักพยางค์    -   |   |   |   |   -   |   |   -   |   |

                     ภาพที่ 12 แสดงโครงสร้างการเน้นพยางค์ในบทร้อยแก้วท�านองสังโยคตามการสวดจริง

                       จากภาพที่ 12 พบว่า ค�าครุ (โครงสร้าง cvv cvc cvvc) เป็นพยางค์เน้น และค�าลหุ (โครงสร้าง

              cv) เป็นพยางค์ไม่เน้นจริงตามน�้าหนักพยางค์ สนับสนุนโดยค่าเวลา แต่ความยาวนานของเสียงในค�าครุทุก
              โครงสร้างใกล้เคียงกัน ท�าให้สามารถจัดพยางค์เน้นได้เพียงระดับเดียวคือ ระดับกลุ่มพยางค์ ()



              4.สรุปและอภิปรายผล


                       ผลการศึกษาทางกลสัทศาสตร์ พบว่า การสวดทั้งสองท�านองมีลักษณะเด่นที่เหมือนกันคือ มีการรักษา
              ระดับเสียงสูงต�่าและความดังให้คงที่ และแสดงการเน้นพยางค์โดยท�าให้เกิดความยาวกว่าพยางค์รอบข้าง ซึ่งท�านาย

              ได้ในเบื้องต้นจากน�้าหนักพยางค์และยืนยันได้ด้วยค่าเวลาในการสวดจริง นอกจากนี้ ยังสามารถสันนิษฐานได้
              ว่า 2 พยางค์สุดท้ายของบทที่มีการลากเสียงยาวเพื่อเน้นพยางค์นั้น อาจเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกการจบบทสวด

                       ส่วนโครงสร้างการเน้นพยางค์ของ  2  ท�านอง  พบว่ามีความแตกต่างกันคือ  ในท�านองสังโยค

              การเน้นพยางค์จะสอดคล้องกับน�้าหนักพยางค์ โดยครุ เป็นพยางค์เน้น และ ลหุ เป็นพยางค์ไม่เน้น โดยที่
              ค�าครุจัดระดับการเน้นได้สูงขึ้นเพียงขั้นเดียวถึงระดับกลุ่มพยางค์


                       ส่วนในท�านองมคธ  ส่วนใหญ่การเน้นพยางค์จะสอดคล้องกับน�้าหนักพยางค์  ยกเว้นบริเวณ
              ต้นและท้ายวรรค ซึ่งถือเป็นการเน้นโดยต�าแหน่งในระดับที่แตกต่างกัน มีทั้งระดับค�า(W) วรรค(P) และ

              ประโยค  (S)  นอกจากนี้ยังพบการสลับการเน้นพยางค์เกิดขึ้นบริเวณต้นวรรคด้วย  ซึ่งในระบบการพูดนั้น
              การสลับเสียง (metathesis) คือ การสลับที่ของ 2 หน่วยเสียง เพื่อให้ง่ายต่อการออกเสียง ท�าให้พยางค์

              ที่ซับซ้อน ลดความซับซ้อนลง (Hall & Clements, 1985 อ้างถึงใน อภิลักษณ์ ธรรมทวีธิกุล, 2547: 58)
              ส่วนสิ่งที่พบในท�านองสวดมคธนี้  คือการสลับเสียงของพยางค์  ที่พยางค์แรกของวรรคซ้าย  อาจเป็น

              การสลับเพื่อการเน้นที่เป็นจังหวะมากกว่าการออกเสียงให้ง่ายขึ้น สามารถสรุปความเหมือนและความต่าง
              เพื่อสะดวกต่อการศึกษาได้ดังนี้








                                                          วารสารมนุษยศาสตร์  ปีที่ 18 ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2554  79
   82   83   84   85   86   87   88   89   90   91   92