Page 49 -
P. 49

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว






            สมบูรณ์ในด้านการปรับระดับแปลงนาและขนาดแปลงนาที่กว้างกว่าพื้นที่ปลูกในนิเวศอื่น  เอื้อประโยชน์
            ต่อการใช้พันธุ์ข้าวที่มีศักยภาพการให้ผลผลิตสูง (high yield potential varieties) ที่ต้องการการจัดการ

            (management, M) และปัจจัยการผลิต (inputs) ในระดับสูงด้วย ท�าให้ข้าวในนิเวศย่อยนี้ให้ผลผลิตต่อ
            พื้นที่สูงที่สุด นับว่าเป็นการใช้องค์ประกอบทั้งด้านพันธุ์ (G) สภาพแวดล้อม (E) และการจัดการ (M) ได้

            อย่างเต็มศักยภาพ
                    ดังนั้น  การจัดการธาตุอาหารพืชส�าหรับข้าวในนิเวศนี้โดยเฉพาะการใส่ปุ๋ยจึงมีความส�าคัญมาก

            ในการปลูกข้าวในนิเวศย่อยนี้  โดยมีอิทธิพลต่อผลผลิตข้าวอย่างเห็นได้ชัด  ประกอบกับข้าวในนิเวศนี้มี
            การปลูกอย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า  2  ครั้งต่อปี  ท�าให้การสูญเสียความอุดมสมบูรณ์ของดินมีมากกว่าข้าว
            ในนิเวศอื่นด้วย การจัดการธาตุอาหารพืชจึงต้องพิจารณาทั้งในด้านปริมาณตามความต้องการของพืชและ

            การรักษาสถานะความอุดมสมบูรณ์ของดินพร้อมกันไปด้วย
                    พันธุ์ข้าวที่ใช้ปลูกในนิเวศย่อยนี้เป็นกลุ่มพันธุ์ข้าวต้นเตี้ยไม่ไวต่อช่วงแสง  มีศักยภาพในการให้

            ผลผลิตสูงและมีอายุเก็บเกี่ยวสั้นกว่าข้าวในนิเวศอื่น  รวมถึงข้าวลูกผสม  (hybrid  rice)  ซึ่งมีลักษณะที่
            ส�าคัญคือตอบสนองต่อปุ๋ยไนโตรเจนในระดับสูง  มีความต้านทานต่อศัตรูข้าวที่ส�าคัญในนิเวศย่อยนี้  เช่น

            เพลี้ยกระโดดสีน�้าตาล  โรคไหม้และโรคขอบใบแห้ง  เป็นต้น  นอกจากนี้  พันธุ์ข้าวในนิเวศย่อยนี้ยังต้องมี
            การพัฒนาพันธุ์ใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง  เพราะศัตรูข้าวที่ส�าคัญปรับตัวเปลี่ยนแปลงชีวชนิดให้เข้าท�าลาย

            พันธุ์ต้านทานได้ รวมทั้งยังต้องใช้สารป้องกันก�าจัดศัตรูข้าวควบคู่หรือสลับกันไปด้วย
                    การเพาะปลูกข้าวในนิเวศย่อยนาสวนนาชลประทานมีการใช้เทคโนโลยีการผลิต  ปัจจัยการ
            ผลิตและเครื่องจักรกลเกษตรมากกว่านิเวศอื่น ตั้งแต่การเตรียมดิน การปลูก การดูแลรักษาจัดการดิน น�้า

            การใส่ปุ๋ย  การป้องกันก�าจัดศัตรูข้าว  ตลอดถึงการเก็บเกี่ยวและการจัดการหลังเก็บเกี่ยว  ปัจจุบันข้าว
            ในนิเวศนาชลประทานให้ผลผลิตเฉลี่ยต่อพื้นที่สูงที่สุด  จึงช่วยยกระดับผลผลิตเฉลี่ยและผลผลิตรวมของ

            ประเทศขึ้นมา ข้าวที่ผลิตได้จากนิเวศนี้ส่วนใหญ่เป็นข้าวในกลุ่ม “ข้าวขาว” (white rice) ซึ่งใช้ประโยชน์
            เพื่อการบริโภคในประเทศและส่งออกทั้งรูปของข้าวขาวและข้าวนึ่ง  (parboiled  rice)  พื้นที่ปลูกข้าว
            ในนิเวศย่อยนี้ส่วนใหญ่อยู่ในเขตภาคกลางและภาคเหนือตอนล่างของประเทศ  ส่วนในภูมิภาคอื่นมีอยู่ใน

            พื้นที่รับน�้าจากแหล่งน�้าชลประทานซึ่งมีอยู่ไม่มากนัก



            4. นิเวศข้าวน�้าลึกและข้าวขึ้นน�้า (deep water and floating rice ecosystem)

                    ข้าวขึ้นน�้าหรือข้าวนาเมือง (floating rice) เป็นข้าวที่ปลูกในแหล่งที่ไม่สามารถรักษาระดับน�้าได้
            บางครั้งระดับน�้าในบริเวณที่ปลูกอาจสูงกว่า 1 เมตร ต้องใช้ข้าวพันธุ์พิเศษที่เรียกว่า ข้าวลอย ส่วนมาก

            ปลูกแถบจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  สุพรรณบุรี  ลพบุรี  พิจิตร  อ่างทอง  ชัยนาทและสิงห์บุรี  คิดเป็น
            เนื้อที่เพาะปลูกประมาณร้อยละ 10 ของเนื้อที่เพาะปลูกทั่วประเทศ





                    ดิน ธาตุอาหารและปุ๋ยข้าว              ประวติการปลูกข้าว และข้าวกับสภาพแวดล้อม ั  45
   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54