Page 46 -
P. 46

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว






          ความอุดมสมบูรณ์ของดินตามธรรมชาติและการอพยพย้ายถิ่นฐานไปสู่พื้นที่ซึ่งมีสภาพแวดล้อมเหมาะสม
          ส�าหรับการเพาะปลูกข้าว  สภาพภูมิอากาศที่มีการกระจายตัวของน�้าฝนสม�่าเสมอ  ประกอบกับพันธุ์ข้าว

          (G)  ที่ใช้เพาะปลูกมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมและศัตรูพืชอยู่ในฐานพันธุกรรมที่หลากหลาย  และมี
          ข้อจ�ากัดในด้านศักยภาพการให้ผลผลิตต�่า ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นข้าวพันธุ์พื้นเมืองของกลุ่มชาติพันธุ์ ที่ผ่าน

          พัฒนาการปรับตัวมาพร้อมกับการโยกย้ายถิ่นฐานจากตอนเหนือในเขตอบอุ่น (temperate zone) มาสู่
          พื้นที่ภาคเหนือของประเทศในปัจจุบันซึ่งอยู่ในเขตร้อน  (tropical  zone)  พันธุ์ข้าวพื้นเมืองนี้ส่วนใหญ่

          จัดอยู่ในกลุ่มข้าวจาปอนิกาในเขตร้อน  (tropical  japonica)  โดยมีลักษณะทรงต้นและเมล็ดคล้ายกับ
          ข้าวชนิดอินดิกา (indica type) แต่สมบัติทางเคมีของเมล็ดและลักษณะทางพันธุกรรม (DNA) เป็นข้าว
          ชนิดจาปอนิกา  ในด้านการจัดการ  (M)  มีเพียงการถากถางและเผา  (slash  and  burn)  เตรียมพื้นที่

          แล้วปลูกโดยการหยอดเมล็ดลงหลุม  เมื่อฝนตกต้นข้าวจะงอกและเจริญเติบโตขึ้นมา  หากมีวัชพืชขึ้น
          จะใช้แรงคนถอนหรือใช้จอบถากวัชพืชออก  รวมถึงการเก็บเกี่ยวข้าวก็ใช้แรงงานคนเป็นหลัก  ซึ่งสร้าง

          ความมั่นคงทางการผลิต  ท�าให้มีปริมาณข้าวส�าหรับบริโภคในพื้นที่ได้ในระดับหนึ่ง  นับว่าเป็นจุดเริ่มต้น
          ของพัฒนาการปลูกข้าวของคนในอดีต  ที่มีข้อจ�ากัดทางด้านเครื่องมือและเทคโนโลยี  แต่มีแรงงานอยู่ใน

          พื้นที่หรือในครัวเรือนเป็นจ�านวนมาก จึงใช้ประโยชน์ด้านสภาพพื้นที่เป็นหลักในการผลิตข้าว
                  แต่ระบบนิเวศนี้ยังขาดความยั่งยืนต่อเนื่อง  เห็นได้จากสถานการณ์ในปัจจุบันที่การอพยพย้าย

          ถิ่นฐานได้ยุติลงแล้ว ท�าให้การปลูกข้าวไร่จ�าเป็นต้องใช้วิธีการหมุนเวียนพื้นที่หรือที่เรียกว่า “ไร่เลื่อนลอย”
          ซึ่งมีผลกระทบต่อนโยบายการรักษาป่าต้นน�้า  และการพักตัวของดินไม่ทันต่อรอบการปลูก  จึงต้องเพิ่ม
          พื้นที่มากขึ้นตามจ�านวนประชากรในพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นด้วย  ความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศ  (climate

          change) ในปัจจุบัน ทั้งความแห้งแล้งและน�้าท่วมฉับพลัน ก็ท�าให้ความมั่นคงของการผลิตข้าวในนิเวศนี้
          ลดลงไปมากด้วย  การใช้พันธุ์ข้าวที่มีศักยภาพการให้ผลผลิตสูงมาปลูกในนิเวศนี้ได้ผลน้อย  เพราะมีข้อ

          จ�ากัด ไม่สามารถใส่การจัดการและปัจจัยการผลิต (Input) ทั้งด้านธาตุอาหารพืช (ปุ๋ย) และน�้าตามความ
          ต้องการของพันธุ์ข้าว  (crop  requirement)  ได้  ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมวัฒนธรรมและ
          ความเจริญของบ้านเมือง พื้นที่ปลูกข้าวในนิเวศนี้จึงมีแนวโน้มลดลงและลดความส�าคัญลงไปในปัจจุบัน

                  อย่างไรก็ตาม  ในปัจจุบันมีความพยายามพัฒนาปรับปรุงสภาพแวดล้อมของข้าวไร่ให้เป็นนาสวน
          ในลักษณะขั้นบันได (terrace rice) เพื่อใช้ประโยชน์จากน�้า การจัดการและการใส่ปัจจัยการผลิต ร่วมกับ

          การใช้พันธุ์ข้าวที่มีศักยภาพการให้ผลผลิตสูงขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง ซึ่งสามารถเพิ่มผลผลิตต่อพื้นที่ได้มากถึง
          2 เท่าของข้าวไร่เดิม แต่ก็ยังมีข้อจ�ากัดด้านแหล่งน�้าส�ารองที่หาได้ค่อนข้างยากในพื้นที่สูง ดังนั้น ในพื้นที่

          สูงของภาคเหนือในปัจจุบันจึงมีการปรับเปลี่ยนด้านการผลิตและการปรับตัวของผู้บริโภค  ตามสภาพการ
          เปลี่ยนแปลงของการคมนาคมและความเจริญของบ้านเมือง กล่าวคือ ส่วนหนึ่งอพยพมาอยู่ในชุมชนเมือง

          พื้นราบ  ส่วนหนึ่งปลูกพืชที่ให้รายได้สูง  (เช่น  พืชผักและผลไม้เมืองหนาว)  น�ามาจ�าหน่าย  แล้วซื้อข้าว
          จากชุมชนเมืองขึ้นไปบริโภคแทน  ในปัจจุบันมีอีกส่วนหนึ่งที่ใช้วิธีเช่าหรือซื้อนาในพื้นที่ราบ  ปลูกข้าวใน



                    ั
          42    ประวติการปลูกข้าว และข้าวกับสภาพแวดล้อม              ดิน ธาตุอาหารและปุ๋ยข้าว
   41   42   43   44   45   46   47   48   49   50   51