Page 28 -
P. 28
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
11
(2.3) ประโยชน์ของสินค้าคงคลัง
1. เป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ประมาณการไว้ใน
แต่ละช่วงเวลา ทั้งในฤดูกาล และนอกฤดูกาล โดยธุรกิจต้องเก็บสินค้าคงคลังไว้ในคลังสินค้า
2. เป็นการรักษาการผลิตให้มีอัตราคงที่สม่ าเสมอ เพื่อรักษาระดับ
การว่าจ้างแรงงาน การเดินเครื่องจักร ฯลฯ ให้สม่ าเสมอได้โดยจะเก็บสินค้าที่จ าหน่ายไม่หมดในช่วงที่
จ าหน่ายได้ไม่ดี ไว้จ าหน่ายตอนช่วงเวลาที่ลูกค้า หรือผู้บริโภคมีความต้องการ ซึ่งในช่วงเวลานั้น
อาจจะผลิตไม่ทันการจ าหน่าย
3. ท าให้ธุรกิจได้ส่วนลดปริมาณ (Quantity Discount) จากการ
จัดซื้อสินค้าจ านวนมากต่อครั้ง เพื่อเป็นการป้องกันการเปลี่ยนแปลงราคา และผลกระทบจากเงินเฟ้อ
เมื่อสินค้าในท้องตลาดมีราคาเพิ่มสูงขึ้น
4. ป้องกันสินค้าขาดมือ ด้วยสินค้าเผื่อขาดมือ เมื่อเวลาที่รอคอย
เกิดความล่าช้า หรือบังเอิญได้ค าสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างกระทันหัน
5. ท าให้กระบวนการผลิตสามารถด าเนินการต่อเนื่องอย่างราบรื่น
ไม่มีการหยุดชะงัก อันเนื่องจากของขาดมือ จนท าให้เกิดความเสียหายแก่กระบวนการผลิต ซึ่งจะท าให้
คนว่างงาน เครื่องจักรถูกปิด หรือผลิตไม่ทันค าสั่งซื้อของลูกค้า
2.1.3 แนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับการจัดการโซ่อุปทาน (Supply Chain management)
เพื่อให้การด าเนินงานด้านการจัดการโซ่อุปทานสามารถท าไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การแบ่งประเภทกิจกรรมที่มีอยู่ในโซ่อุปทานออกมาชัดเจน ท าให้การด าเนินงานสามารถท าได้ง่ายขึ้น
เนื่องจากผู้ปฏิบัติงานสามารถมองเห็นภาพในการปฏิบัติงานได้อย่างชัดเจนขึ้น ในส่วนต่อไปนี้จะ
กล่าวถึงประเภทและความหมายของกิจกรรมในโซ่อุปทาน
(1) การจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (Customer Relationship Management)
การจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (Customer Relationship Management)
หรือ CRM ประกอบด้วยกิจกรรมพัฒนาเพื่อสร้างความภักดีและตอบสนองอุปสงค์ความต้องการให้กับ
ลูกค้าแต่ละกลุ่ม ซึ่งให้ผลตอบแทนไม่เท่ากัน (โกศล ดีศีลธรรม, 2548, หน้า 13)
ขั้นตอนแรกที่จะก้าวสู่การจัดการห่วงโซ่อุปทานแบบบูรณาการคือ การระบุ
ลูกค้าหรือกลุ่มลูกค้าหลักที่องค์กรมุ่งเน้นว่ามีความส าคัญและกระทบต่อการท าธุรกิจ ข้อตกลงใน
สินค้าและบริการที่บ่งบอกถึงระดับการให้บริการถูกสร้างขึ้นด้วยกลุ่มลูกค้าหลักเหล่านี้ ทีมบริการ
ลูกค้าท างานกับลูกค้าเพื่อที่จะสามารถระบุและก าจัดแหล่งต้นเหตุของการเปลี่ยนแปลงความต้องการ
ของลูกค้า การประเมินวัดผลงานช่วยวิเคราะห์ระดับการให้บริการที่ให้กับลูกค้ารวมทั้งความสามารถ
ในการท าก าไรของลูกค้า (Lambert & Cooper, 2000)
ขั้นแรกในการบูรณาการโซ่อุปทาน (Integrated SCM) คือ การระบุกลุ่มลูกค้า
หลักหรือกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของกิจการเนื่องจากทีมงานให้บริการลูกค้าต้องพยายามสร้างแผนงาน
การพัฒนาความสัมพันธ์ให้เข้ากับลูกค้ากลุ่มนี้ ซึ่งหากการพัฒนาความสัมพันธ์ดังกล่าวเป็นผลส าเร็จ ก็
จะช่วยให้กิจการมีการติดต่อสื่อสารที่ดีกับลูกค้า และสามารถพยากรณ์ความต้องการของลูกค้าได้ดี
มากขึ้นซึ่งท้ายที่สุดส่งผลดีต่อการให้บริการลูกค้าและผลก าไรระยะยาวของกิจการ (Grant et al,
2006)