Page 46 -
P. 46

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว





                       รูปแบบธุรกิจหลักที่เปิดโอกาสให้เกษตรกรเป็นส่วนสําคัญในการดําเนินการแบ่งได้กว้างๆ ดังนี้

                       3.1.1  เกษตรพันธะสัญญา (Contract farming)
                       เกษตรพันธะสัญญานี้ เกษตรกรกับผู้ซื้อผลผลิตทําสัญญาการซื้อผลผลิตที่ตกลงปริมาณการรับซื้อไว้

               ก่อนแล้ว โดยทั่วไปสัญญามักจะระบุราคารับซื้อ หรือระบุว่าราคารับซื้อจะขึ้นอยู่กับราคาตลาดมากน้อย

               เพียงใด และอาจระบุไปถึงวันที่ต้องส่งผลผลิต ปริมาณเท่าไร และมีคุณภาพระดับใด ส่วนใหญ่แล้วบริษัทรับซื้อ
               ผลผลิตจะให้สินเชื่อ เมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย ยาและความรู้ทางเทคนิคกับเกษตรกรก่อน เกษตรกรจะจ่ายคืนค่าวัตถุดิบ

               เหล่านี้ในภายหลังเมื่อขายผลิตผลได้โดยให้บริษัทหักจากราคารับซื้อ เกษตรพันธะสัญญายังแบ่งแยกย่อยได้อีก
               หลายประเภท ตั้งแต่สัญญาปากเปล่าไม่เป็นทางการจนถึงสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรที่กําหนดเงื่อนไขการรับ

               ซื้อไว้มากมาย

                       1)  Highly centralized modelคือ กรณีที่บริษัทรับซื้อทําสัญญารับซื้อกับเกษตรกรจํานวนมาก
                           และมีการควบคุมและตรวจสอบคุณภาพและปริมาณที่เข้มงวด

                       2)  Nucleus estate modelคือ กรณีที่บริษัทผสมผสานการทําสัญญากับเกษตรกรและการเข้าไป
                           ทําการผลิตเองโดยตรง เช่น การเช่าที่จากรัฐในระยะยาวแล้วแบ่งให้เกษตรกรเช่าต่อ บริษัทรับ

                           ซื้อหรือบริษัทธุรกิจการเกษตรจะเป็นผู้ตัดสินใจด้านการผลิตทั้งหมด

                       3)  Multipartite modelคือ กรณีที่เกษตรกรทําสัญญากับบริษัทร่วมทุน (joint  venture)  ซึ่งเป็น
                           บริษัทที่เกิดจากการร่วมทุนของบริษัทธุรกิจการเกษตรที่รับซื้อผลผลิตกับหน่วยงาน/นิติบุคคลใน

                           ท้องถิ่น เช่น หน่วยงานของรัฐ บริษัทท้องถิ่นหรือองค์กรตัวแทนเกษตรกรในท้องถิ่นนั้น

                       4)  Informal modelคือ การทําสัญญาแบบปากเปล่า ไม่เป็นทางการ ตกลงตามฤดูกาลการผลิต
                           โดยบริษัทรับซื้อมักจะจัดหาเพียงเมล็ดพันธุ์และปุ๋ยให้เท่านั้น

                       5)  Intermediary modelหรือ กรณีที่บริษัทรับซื้อมักทําสัญญากับพ่อค้าคนกลางซึ่งไปทําสัญญาต่อ
                           กับเกษตรกรจํานวนมาก โดยพ่อค้าคนกลางเป็นผู้ให้สินเชื่อกับเกษตรกรรายย่อยเพื่อนําไปจัดซื้อ

                           ปัจจัยการผลิต เกษตรกรจะได้รับผลประโยชน์จากรายได้หลังหักหนี้ที่ต้องชําระคืนให้พ่อค้าคน

                           กลาง
                       6)  Subcontractingหรือ กรณีที่บริษัทรับซื้อไปทําสัญญากับบุคคลที่สามในการจัดหาหรือจัดส่ง

                           สินค้าและบริษัทไปทําสัญญาต่อกับเกษตรกรรายย่อยให้ผลิตตามปริมาณที่กําหนด บริษัทรับซื้อ
                           ทําหน้าที่เหมือนเป็นพ่อค้าคนกลาง เกษตรกรรายย่อยลงทุนกับปัจจัยการผลิตเองหรือบริษัท

                           อาจจะช่วยจัดหาให้แล้วแต่การตกลง เกษตรกรอาจเผชิญกับปัญหาบริษัทรับซื้อชําระเงินค่า

                           สินค้าให้ล่าช้า
                       ในรูปแบบธุรกิจนี้ โดยมากเกษตรกรยังคงเป็นเจ้าของพื้นที่หรือมีสิทธิ์ในการใช้ประโยชน์จากพื้นที่นั้น

               และดําเนินการผลิตบนพื้นที่ตนเอง (อาจยกเว้นกรณี nucleus estate model) เรื่องการตัดสินใจทางธุรกิจที่

               เชื่อมโยงกับตลาดโดยตรงจะเป็นของบริษัทรับซื้อ ในกรณีที่เป็น pure contract farming คือบริษัททําเกษตร
               พันธะสัญญากับเกษตรกรโดยตรงเกษตรกรอาจจะมีสิทธิ์มีเสียงในการต่อรองอยู่บ้างเนื่องจากผลผลิตทั้งหมด

               ขึ้นอยู่กับเกษตรกร แต่ถ้าในกรณี nucleus estate model เกษตรกรจะแทบไม่มีอํานาจต่อรองเลย

                                                           3-3
   41   42   43   44   45   46   47   48   49   50   51