Page 216 -
P. 216

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว





                          ส่งผลกระทบรุนแรงมากกับเกษตรกร กลไกสําคัญที่จะต้องมารองรับการใช้แนวทางปลูกพืชหลาย

                          ชนิดหรือปลูกผสมผสานคือ การรวมกลุ่มเพื่อขาย เนื่องจากเกษตรกรแต่ละรายปลูกพืชแต่ละชนิด
                          ในปริมาณไม่มาก จําเป็นที่ต้องมีกลไกลดต้นทุนการขนส่งและต้นทุนดําเนินการอื่นๆ

                                 นอกจากนี้ ยังพบว่าในหลายพื้นที่ของน่านเกษตรกรเลือกการทําปศุสัตว์เช่น การเลี้ยงโค

                          กระบือ เป็นการกระจายความเสี่ยงช่องทางหนึ่ง และเน้นแนวทางการเลี้ยงดูแบบธรรมชาติทําให้
                          มีต้นทุนการเลี้ยงต่ํา สัตว์เหล่านี้มีราคาสูงจึงเป็นเหมือนหลักทรัพย์ที่สําคัญของเกษตรกรไปด้วย

                       2)  การกระจายตลาดขายผลผลิต สําหรับพื้นที่ที่ยังต้องเน้นการปลูกพืชชนิดเดียวเป็นหลัก เช่น ใน
                          พื้นที่บ้านป่ากลาง แม้ว่ากลุ่มเกษตรกรมีรายได้หลักในระดับค่อนข้างสูงจากการขายมะม่วง

                          คุณภาพสูงให้บริษัทส่งออกผลไม้ไปต่างประเทศซึ่งมีความผันผวนของราคาไม่มากนัก แต่

                          เกษตรกรยังคงเผชิญความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากปริมาณการรับซื้อของผู้ส่งออก กลุ่มเกษตรกรจึงเริ่ม
                          ใช้ช่องทางการปลูกมะม่วงหลายพันธุ์เพื่อตอบสนองความต้องการของหลายตลาดได้ โดยปลูก

                          มะม่วงน้ําดอกไม้ตามความต้องการของตลาดญี่ปุ่น เกาหลี ปลูกมะม่วงสีทองตามความต้องการ
                          ตลาดไต้หวันและจีนซึ่งมีรสนิยมต่างออกไป และยังปลูกมะม่วงเขียวเสวยเพื่อขายตลาดใน

                          ประเทศ

                                 นอกจากนี้ การแปรรูปยังสามารถใช้เป็นกลไกหนึ่งในการกระจายตลาดขายผลผลิตได้
                          เช่นกัน ตัวอย่างเช่น กลุ่มเกษตรกรในหมู่บ้านสันเจริญซึ่งมีรายได้หลักมาจากการปลูกกาแฟใช้

                          วิธีการขายสินค้าที่หลากหลายตามขั้นตอนการแปรรูปคือ ขายทั้งในรูปแบบเมล็ดกาแฟสด กะลา

                          กาแฟสาร และเมล็ดกาแฟคั่ว ทําให้มีตลาดที่หลากหลายมารองรับ ทั้งนี้ การรวมกลุ่มของ
                          เกษตรกรก็มีบทบาทสําคัญในกลไกการกระจายตลาดเช่นกัน เนื่องจากในการขยายหรือหาตลาด

                          รองรับเพิ่มจําเป็นที่ต้องมีปริมาณสินค้ารวมมากพอ
                       3)  ระบบเกษตรพันธะสัญญาระบบเกษตรแบบพันธะสัญญาเป็นอีกกลไกหนึ่งที่สามารถช่วยลดความ

                          เสี่ยงจากความผันผวนทางราคาและตลาด โดยเกษตรกรจะทราบราคารับซื้อและปริมาณรับซื้อ

                          ล่วงหน้าและถือเป็นสิ่งที่ช่วยในการตัดสินใจก่อนที่จะดําเนินการผลิต เช่น เกษตรกรทําพันธะ
                          สัญญาปลูกเมล็ดพันธุ์ อย่างไรก็ดี จุดอ่อนสําคัญของการทําเกษตรพันธะสัญญาในหลายพื้นที่คือ

                          การที่เกษตรกรจะต้องพึ่งพิงกับบริษัทค่อนข้างมาก ปัญหาความไม่เท่าเทียมกันด้านข้อมูลระหว่าง
                          เกษตรกรและบริษัท โดยส่วนใหญ่ในปัจจุบันบริษัทเป็นผู้นําเสนอข้อมูลให้กับเกษตรกรเพียงด้าน

                          เดียวโดยที่เกษตรกรยังไม่สามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ได้รับ เช่น ข้อมูลการ

                          คาดการณ์ตลาดในอนาคต ข้อมูลการผลิต เป็นต้น นอกจากนี้ เกษตรกรยังประสบปัญหาความ
                          เสี่ยงในกรณีที่บริษัทยกเลิกหรือไม่ต่อสัญญาในขณะที่เกษตรกรมีอํานาจการต่อรองค่อนข้างน้อย

                          พืชที่บริษัทต้องการทําพันธะสัญญามักเป็นพืชที่ต้องใช้ทักษะและแรงงานในการดูแลสูง (เกษตร

                          ประณีต) และมักมีต้นทุนปัจจัยการผลิตสูง อยู่ใกล้เส้นทางการคมนาคมหลักเนื่องจากบริษัทรับ
                          ซื้อจะต้องเข้ามาตรวจสอบดูแลเป็นระยะ ทําให้การเลือกใช้วิธีการเกษตรพันธะสัญญาเป็นการ

                          ตัดสินใจของบริษัทไม่ใช่จากเกษตรกร


                                                           8-9
   211   212   213   214   215   216   217   218   219   220   221