Page 211 -
P. 211

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว





                       -  การพัฒนาคุณภาพผลผลิต ซึ่งผลผลิตมีราคาต่อหน่วยสูงขึ้นและมีความผันผวนน้อยกว่าผลผลิตใน

                          ตลาดทั่วไป ในการผลิตผลผลิตที่มีคุณภาพสูงเกษตรกรจะต้องทุ่มเทกับการพัฒนาคุณภาพ
                          มากกว่าปริมาณ และลูกค้าที่เห็นคุณค่าของความพยายามนั้นและยินดีที่จะซื้อผลผลิตในราคา

                          สูงขึ้น ในพื้นที่บ้านมณีพฤกษ์ เจ้าของธุรกิจ Gem  Forest  พร้อมที่จะกําหนดราคารับซื้อขั้นต่ํา

                          ล่วงหน้าก่อนการเก็บเกี่ยว 2  เดือนและกําหนดสูงกว่าราคารับซื้อจากพ่อค้าจากภายนอก เช่น
                          พ่อค้าภายนอกรับซื้อเมล็ดกาแฟเชอร์รี่ที่ราคา 22  บาท ต่อ กก. แต่ Gem  forest  รับซื้อที่ 25

                          บาทต่อ กก. เพื่อให้เกษตรกรสามารถทุ่มเทกับการรักษาคุณภาพในช่วงการเก็บเกี่ยวผลผลิตได้
                          หรือในกรณีบ้านสันเจริญ เจ้าของธุรกิจแปรรูปกาแฟที่มีคุณภาพสูงจะยินดีกําหนดราคารับซื้อ

                          ผลผลิตล่วงหน้าจากเกษตรกรที่สูงกว่าการรับซื้อทั่วไปประมาณ 1-1.50  บาทต่อ กก. เนื่องจาก

                          ผลผลิตที่มีคุณภาพสูงนี้มีผลผลิตจากแหล่งอื่นมาทดแทนได้ยาก เช่นเดียวกับเกษตรกรผู้ปลูก
                          มะม่วงเพื่อการส่งออกในบ้านป่ากลางที่สามารถขายมะม่วงคุณภาพสูงที่ราคา 60-80  ต่อ กก.

                          ในขณะที่มะม่วงคุณภาพทั่วไปในย่านเดียวกันต้องขายในราคาประมาณ 25 บาทต่อ กก.
                                 ทั้งนี้ การรวมกลุ่มจะมีบทบาทสําคัญในการผลิตผลผลิตที่มีคุณภาพสูง เพราะมีส่วนช่วย

                          ในการตรวจสอบดูแลคุณภาพผลผลิตระหว่างเกษตรกรด้วยกันเอง การกระจายความรู้ที่จําเป็น

                          ต่อการสร้างคุณภาพ การลดต้นทุนการตรวจสอบ (monitoring cost)
                                 นอกจากนี้ การเพิ่มผลตอบแทนต่อไร่ผ่านการพัฒนาคุณภาพสินค้า อาจใช้นวัตกรรมเข้า

                          มาช่วยได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่สูงที่เผชิญข้อจํากัดทางกายภาพเรื่องแหล่งน้ําและการ

                          คมนาคมซึ่งมีผลมากกับการพยายามรักษาคุณภาพผลผลิตให้สม่ําเสมอ นวัตกรรมเกี่ยวกับการให้
                          ปุ๋ยในช่วงหน้าแล้ง การรักษาคุณภาพผลผลิตหลังเก็บเกี่ยวและช่วงการขนส่งล้วนมีบทบาทสําคัญ

                          ในการรักษาผลตอบแทนจากราคาที่สูงขึ้นให้ตกอยู่กับเกษตรกรอย่างแท้จริง
                                 อย่างไรก็ตาม ปัญหาในปัจจุบันที่สําคัญมากประการหนึ่งคือระบบการตรวจสอบและ

                                                               138
                          รับประกันคุณภาพผลผลิตมักจะมีต้นทุนสูง  ต้องดําเนินการโดยองค์กรภายนอกหรือพ่อค้า
                          ขนาดใหญ่ ทําให้มูลค่าเพิ่มและผลประโยชน์ที่ได้ตกอยู่กับผู้ดําเนินการตรวจและรับประกัน
                          คุณภาพซึ่งก็คือองค์กรหรือพ่อค้าขนาดใหญ่ ปัจจัยสําคัญประการหนึ่งในการพัฒนาคุณภาพ

                          ผลผลิตให้ได้ผลสําเร็จและให้มูลค่าเพิ่มที่เกิดขึ้นตกอยู่กับเกษตรกรในพื้นที่คือ การพัฒนาระบบ
                          การตรวจสอบคุณภาพของผลผลิตที่มีต้นทุนต่ําและสามารถดําเนินการได้ในระดับชุมชน เช่น

                          ระบบการตรวจสอบคุณภาพอย่างมีส่วนร่วมจากภายในชุมชนเอง หรือการตั้งมาตรฐานระดับ

                          ท้องถิ่นที่มีต้นทุนการตรวจสอบต่ําและได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค
                       -  เลือกปลูกพืชที่ใช้จุดเด่นเฉพาะของพื้นที่ การปลูกพืชที่ใช้จุดเด่นเฉพาะของพื้นที่ทําให้ได้ผลผลิตที่

                          โดดเด่น เป็นที่ต้องการของตลาด และหาสินค้าทดแทนได้ยาก เช่น การปลูกพริกหวานในพื้นที่



               138 ตัวอย่างเช่น การตรวจแปลงเพื่อรับรองมาตรฐาน GAP มีต้นทุนสูงถึง 5,000 บาท/แปลง ส่วนการรับรองมาตรฐานเกษตร

               อินทรีย์โดยทั่วไปก็มีต้นทุนการดําเนินงานที่สูง

                                                           8-4
   206   207   208   209   210   211   212   213   214   215   216