Page 32 -
P. 32

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

                                                                                                    16-23




                               (7) นโยบายน้ําในชวงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2535-2539)

                              แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2535-2539) อยูในชวงการบริหาร
               ของรัฐบาล 4 คณะ คือ รัฐบาลคณะที่ 48 มีพลเอกสุจินดา คราประยูร เปนนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีคณะที่ 49
               มีนายอานันท ปนยารชุน เปนนายกรัฐมนตรี รัฐบาลคณะที่ 51 มีนายชวน หลีกภัย เปนนายกรัฐมนตรี และ
               รัฐบาลคณะที่ 50 มีนายบรรหาร ศิลปอาชา เปนนายกรัฐมนตรี
                             แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ ฉบับที่ 7 ไดสรุปปญหาความเสื่อมโทรมของ

               ทรัพยากรน้ําในภาพรวมไวดังนี้
                                     “ความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม การพัฒนาที่ผานมา
               ไดมีการระดมใชทรัพยากรธรรมชาติทั้งที่ดิน ปาไม แหลงน้ํา ประมง และแร อยางสิ้นเปลืองและไมประหยัด

               ซึ่งยังผลใหเกิดความเสื่อมโทรมอยางรวดเร็ว และเริ่มสงผลกระทบตอการทํามาหากินของประชาชนในชนบท
               ซึ่งตองพึ่งพาทรัพยากรเหลานี้เปนหลักในการยังชีพอยูแลว ผลกระทบดังกลาวทําใหการแกปญหาความ
               ยากจนในชนบทยืดเยื้อและลําบากมากขึ้น นอกจากนี้การบุกรุกทําลายปา ยังสงผลใหเกิดการสูญเสียพันธุพืช
               พันธุสัตวที่มีคาของประเทศไทย ” และปญหาของทรัพยากรแหลงน้ําโดยตรงดังนี้

                                     “ทรัพยากรแหลงน้ํา มีจํากัดและมีความขัดแยงในการใชแหลงน้ําเพื่อการเกษตร
               เพื่อการอุปโภคบริโภค เพื่อการอุตสาหกรรมและอื่นๆ ทั้งนี้เนื่องจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจอยางรวดเร็ว
               ทําใหมีความตองการใชน้ํานอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นมาก ประกอบกับการบริหารและจัดหาน้ํายังไมมี
               ประสิทธิภาพเทาที่ควร” (สํานักคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ, 2534: 10, 230)


                                      (7.1) สาระสําคัญของนโยบายน้ําในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ ฉบับที่ 7
                                     การพัฒนาทรัพยากรน้ํา ในชวงแผนพัฒนาฉบับนี้มีเปาหมายใหมีการพัฒนาแหลงน้ํา
               อยางเปนระบบลุมน้ํา 25 ลุมน้ํา ทั้งประเทศ โดยมีนโยบายและมาตรการ 9 ประการ คือ (1) จัดทําแผนงาน

               จัดสรรงบประมาณดานการพัฒนาแหลงน้ําทุกประเภทในรูปของกลุมโครงการอยางเปนระบบลุมน้ําที่
               สอดคลองกับสภาพของปญหา (2)  กําหนดใหโครงการพัฒนาแหลงน้ําขนาดกลางมีการพิจารณาถึงความ
               เหมาะสมดานอุทกศาสตร สภาพภูมิศาสตร และผลกระทบตอสิ่งแวดลอม (3) ใหมีการจัดสรรงบประมาณเพื่อ
               การพัฒนาแหลงน้ําขนาดเล็กที่กระจายออกไปอยางทั่วถึงทุกพื้นที่ โดยเนนพื้นที่ฝนตกนอยกวาปกติ และ

               พื้นที่นอกเขตชลประทาน (4) จัดรูปแบบการบริหารและจัดการโครงการแหลงน้ํา  โดยใหองคกรประชาชนเขา
               มามีสวนรวมในการบริหารและบํารุงรักษาโครงการ และใหหนวยงานของรัฐเปนฝายสนับสนุนดานวิชาการ (5)
               เรงรัดใหมีการจัดตั้งองคกรระดับชาติ โดยมีกฎหมายรองรับ (6)  กําหนดแผนงานเพื่อการจัดหาแหลงน้ําดิบ
               สําหรับการประปาและจัดทํามาตรการควบคุมคุณภาพน้ําในแหลงน้ําตางๆ เพื่อรองรับการขยายตัวของชุมชน

               (7)  สนับสนุนใหมีการศึกษาในขั้นรายละเอียดเรื่องศักยภาพของแหลงน้ําบาดาลทั่วประเทศ และจัดทําแผน
               แมบทการพัฒนาทรัพยากรน้ําบาดาล (8)  สนับสนุนการจัดทําระบบขอมูลแหลงน้ํา เพื่อประโยชนในการ
               วางแผนและการกําหนดนโยบายจัดสรรน้ํา ปองกันและบรรเทาอุทกภัย (9)  ปรับปรุงอัตราคาใชน้ําจากการ
               ชลประทานที่เก็บจากภาคเกษตรกรรมและนอกภาคเกษตรใหเหมาะสมตามปริมาณการใชและคํานึงถึงสิทธิการใชน้ํา

                                     นโยบายจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ ฉบับที่ 7 มีความตอเนื่อง
               กับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติฉบับตางๆ ที่ผานมา ในการบริหารจัดการทรัพยากรในระดับลุมน้ํา
               การพัฒนาแหลงน้ําขนาดกลางที่เริ่มมาตั้งแตแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 1 และการพัฒนาแหลงน้ําขนาดเล็กที่เริ่ม
               มาตั้งแตแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 4 การพัฒนาน้ําบาดาลที่เริ่มมาตั้งแตแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 2 การจัดทํา

               ระบบขอมูลแหลงน้ํา และแผนการใชองคกรภาคประชาชนเขามามีสวนรวมในการบริหารและบํารุงรักษา
   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37