Page 27 -
P. 27

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

                                                                                                    16-18




                                     นโยบายที่รัฐบาลคณะที่ 38 คณะที่ 39 คณะที่ 40 และคณะที่ 41 แถลงตอรัฐสภา ได

               เนนการพัฒนาการชลประทานและแหลงน้ํา ซึ่งสอดคลองกับนโยบายของรัฐบาลคณะตางๆ ที่ผานมา และ
               สอดคลองกับนโยบายที่กําหนดไวในแผนพัฒนาฯ ทุกฉบับที่ผานมา สวนนโยบายของรัฐบาลคณะที่ 42 นั้น
               ไดเนนการแกไขปญหาความแหงแลง ซึ่งมีสาเหตุจากวิกฤติภัยแลงอยางรุนแรงที่เกิดขึ้น ในป พ.ศ. 2523

                                     (4.3) สาระสําคัญของนโยบายจากมติคณะรัฐมนตรีและการดําเนินการ

                                     ในชวงแผนพัฒนาฯ ฉบับนี้ นอกจากมีการพัฒนาแหลงน้ําขนาดใหญและขนาด
               กลางอยางตอเนื่องแลว ไดเริ่มการกอสรางแหลงน้ําขนาดเล็ก โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้ง
               มีการพัฒนาแหลงน้ําธรรมชาติขนาดใหญ เชน บึงบอระเพ็ด กวานพะเยา และหนองหาน การพัฒนาน้ํา
               บาดาล เชนโครงการพัฒนาน้ําใตดินเพื่อการเกษตรจังหวัดสุโขทัย ดําเนินการสูบน้ําดวยไฟฟาเพื่อการเกษตร การ

               จัดหาน้ําเพื่ออุตสาหกรรม จังหวัดสมุทรปราการ การแกไขคุณภาพน้ําในแมน้ําแมกลอง ในเขตจังหวัดราชบุรี
               และกาญจนบุรี เริ่มตนใหมีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดลอมในโครงการอางเก็บน้ําที่มีขนาด 15 ตาราง
               กิโลเมตรขึ้นไปหรือโครงการชลประทานที่มีพื้นที่ตั้งแต 80,000  ไรขึ้นไป รวมทั้งการพัฒนาการเกษตรในลุม

               เจาพระยาตอนบน แมกลองและน้ําอูน มีการเตรียมการและชวยเหลือราษฎรที่ประสบภัยพิบัติจากภัยแลง และ
               อุทกภัย ตลอดจนการจัดตั้งคณะกรรมการและศูนยประสานงานและเรงรัดพัฒนาแหลงน้ําขึ้น ในสํานัก
               เลขาธิการนายกรัฐมนตรี
                                     มีการกอสรางเขื่อนขนาดใหญ (ความจุ 100 ลาน ลบ.ม ขึ้นไป) ดังนี้  (1) เขื่อนบางลาง
               (2) เขื่อนวชิราลงกรณ (3) เขื่อนลํานางรอง (4) เขื่อนลําแซะ (5) อางเก็บน้ําลํามูลบน (6) อางเก็บน้ําแมกวง


                                     (4.4) สรุปความสอดคลองของนโยบายทั้ง 3 แหลง
                                     “นโยบายจากมติคณะรัฐมนตรีและการดําเนินการ มีความสอดคลองกับ
               แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ และนโยบายที่คณะรัฐมนตรีแถลงตอรัฐสภาทั้ง 4 คณะ ในเรื่องการ

               พัฒนาแหลงน้ําและการขยายการชลประทาน การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดลอมในการกอสรางอางเก็บน้ําขนาดใหญ
               การจัดตั้งคณะกรรมการระดับนโยบาย และจัดตั้งศูนยประสานงานและเรงรัดพัฒนาแหลงน้ํา การแกไข
               คุณภาพน้ํา รวมทั้งดําเนินการกอสรางแหลงน้ําขนาดเล็กในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

                                     ในชวงแผนพัฒนาฯ ฉบับนี้ ในป พ.ศ. 2523-2524 ไดเกิดภัยแลงสงผลใหปริมาณน้ํา
               ในเขื่อนภูมิพลและสิริกิตตนอยมาก และในขณะนั้นแหลงพลังงานไฟฟาที่สําคัญมาจากเขื่อนภูมิพลและสิริกิติ์
               คณะรัฐมนตรีจึงไดมีมติหยุดการออกอากาศของโทรทัศนทุกชองในชวงเวลา 18.00-20.00 น. เพื่อ
               ประหยัดน้ําจนเหตุการณเขาสูปกติ  และไดจัดตั้งศูนยบัญชาการเฉพาะกิจในภาวะฝนแลงขึ้นดําเนินการซึ่งมี
               การนํามาปฏิบัติในรัฐบาลคณะตางๆ ในเวลาตอมาเมื่อเกิดปญหาภัยแลง

                                     สวนนโยบายการเก็บคาน้ําจากเกษตรกรนั้น คณะรัฐมนตรีไดมีมติเมื่อวันที่ 6
               มกราคม 2524 ใหวางหลักเกณฑการเก็บคาน้ําจากเกษตรกรที่ไดกําหนดไวในแผนพัฒนาการเศรษฐกิจ
               แหงชาติ ฉบับที่ 1 แตไมมีผลในทางปฎิบัติในชวงแผนพัฒนาฉบับที่ 1-3”


                              (5) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2525-2529)
                              แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2525-2529) อยูในชวงการบริหาร
               ของรัฐบาลคณะที่ 43 และคณะที่ 44 ซึ่งมีพลเอกเปรม ติณสูลานนท เปนนายกรัฐมนตรี
                             แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ ฉบับที่ 5 ไดรายงานถึงปญหาการใชแหลงน้ําเพื่อ

               การชลประทานไวดังนี้
   22   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32