Page 54 -
P. 54
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
บรรพ 4 ในส่วนที่ว่าด้วยภารจํายอม ส่วนโจทก์ที่ 2 นั้นได้ความเพียงว่าเป็นผู้เช่าที่ดินจากโจทก์ที่ 1 โดย
ไม่ปรากฏว่ามีนิติสัมพันธ์ใดๆ กับจําเลยที่ 1 ดังนั้น โจทก์ที่ 2 จึงไม่ใช่เจ้าหนี้ที่จะมีสิทธิฟูองให้จําเลยที่ 1
และจําเลยที่ 2 เพิกถอนการฉ้อฉลได้เช่นกัน
กรณีไม่จําต้องเป็นเจ้าหนี้ตามคําพิพากษา (คําพิพากษาฎีกาที่ 3726/2530) ไม่จําต้องใช้สิทธิ
ทางศาลแล้ว (คําพิพากษาฎีกาที่ 2269/2543) เป็นเพียงเจ้าหนี้ธรรมดาก็ได้
คําถาม เจ้าหนี้ตามคําพิพากษาเพิกถอนการฉ้อฉลได้หรือไม่
คําตอบ........................................................................................
(2) ลูกหนี้ท านิติกรรมที่มีวัตถุเป็นสิทธิในทรัพย์สินในภายหลัง
- ต้องเป็นนิติกรรมตามมาตรา 149
- ลูกหนี้ต้องเป็นผู้ทํานิติกรรม
- ต้องเป็นนิติกรรมที่เกิดขึ้นภายหลังหนี้ระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้
- ต้องมีวัตถุแห่งสิทธิในทรัพย์สิน เช่น ลูกหนี้จดทะเบียนโอนที่ดินให้บุคคลภายนอก
เป็นต้น
คําพิพากษาฎีกาที่ 3726/2530 จําเลยที่ 1 กู้เงินโจทก์ตามสัญญากู้ระบุเอาบ้านพิพาทเป็น
ประกัน ต่อมา จําเลยที่ 1 ไม่มีเงินชําระหนี้จึงตกลงจะไปจดทะเบียนโอนบ้านพิพาทแก่โจทก์แต่จําเลยที่
1 กลับทําสัญญาซื้อขายโอนทะเบียนบ้านพิพาทให้แก่จําเลยที่ 2 นิติกรรมดังกล่าว จําเลยที่ 1 กระทําลง
ทั้งรู้อยู่ว่าเป็นทางให้โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้เสียเปรียบ และจําเลยที่ 2 ซื้อบ้านพิพาทจากจําเลยที่ 1 โดยไม่
สุจริต ดังนี้ โจทก์ย่อมฟูองขอให้เพิกถอนการฉ้อฉลเสียได้ตามมาตรา 237
หากนิติกรรมที่มีวัตถุประสงค์ต้องห้ามตามกฎหมาย หรือนิติกรรมอื่นที่มีผลเป็นโมฆะ ต้องฟูอง
เพิกถอนการฉ้อฉลหรือไม่นั้น ต้องตามบทบัญญัติแห่งมาตรา 150 ว่าถือเป็นโมฆะอยู่แล้ว จึงไม่ต้องฟูอง
เพิกถอนการฉ้อฉล แต่สําหรับนิติกรรมที่ไม่เกี่ยวกับทรัพย์สินแต่มีผลกระทบกับกองทรัพย์สินของลูกหนี้
ในบางกรณีนั้น ก็ไม่อาจฟูองเพิกถอนการฉ้อฉลได้ เช่น ลูกหนี้จดทะเบียนรับรองบุตร การจดทะเบียน
หย่า เป็นต้น
(3) นิติกรรมนั้นท าให้เจ้าหนี้เสียเปรียบ เช่น การจําหน่ายจ่ายโอนทรัพย์สิน การกู้ยืมเงิน การ
จํานอง การจํานํา การปลดหนี้ การจดทะเบียนให้เช่าอสังหาฯ เป็นต้น ในกรณีนี้ แม้หนี้ยังไม่ถึงกําหนด
เจ้าหนี้ก็ฟูองเพิกถอนได้
หากลูกหนี้ทํานิติกรรมก่อให้เกิดประโยชน์ต่อกองทรัพย์สินของลูกหนี้ ก็ย่อมไม่เป็นทางให้เจ้า
หนีเสียเปรียบอยู่เอง ดังนั้น เจ้าหนี้ก็ฟูองเพิกถอนไม่ได้ (โปรดดูคําพิพากษาฎีกาที่ 1868-9/2516) หรือ
หากทรัพย์ที่จํานองเพียงพอต่อการชําระหนี้ของเจ้าหนี้ผู้รับจํานอง ลูกหนี้ไปทํานิติกรรมอันทําให้เจ้าหนี้
เสียเปรียบ เจ้าหนี้ก็อาจฟูองเพิกถอนได้หากว่าทําให้เจ้าหนี้เสียเปรียบในทรัพย์สินนั้นๆ (โปรดดูคํา
พิพากษาฎีกาที่ 266/2537)
(4) ลูกหนี้รู้ว่าเป็นการท าให้เจ้าหนี้เสียเปรียบ
ลูกหนี้ต้องรู้ในขณะทํานิติกรรม
54