Page 30 -
P. 30
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ย่อมไม่สามารถ แก้ไขเหตุการณ์ได้ทัน ทั้งวันนัดโอนก็เป็นวันศุกร์ ก. จึงขอเลื่อนการจดทะเบียนการโอน
ไปเป็นวันจันทร์ซึ่งเป็นวันเริ่มเปิดทําการใหม่ของทางราชการ ข. อ้างว่า ก ผิดนัด จึงไม่ยอมโอน
กรรมสิทธิ์ในที่ดินให้ พร้อมฟูองเรียกค่าเสียหายและค่าสินไหมทดแทนจาก ก. ข้ออ้างของ ข ฟ๎งขึ้น
หรือไม่ (เทียบเคียง คําพิพากษาฎีกาที่ 822/2538)
คําตอบ ..................................................................
การผิดนัดในหนี้หลายราย ย่อมเป็นไปตามหนี้แต่ละราย ส่วนหนี้รายเดียวที่ผ่อนชําระเป็นงวดๆ
ตามวันแห่งปฏิทิน ถ้าผิดนัดงวดใดงวดหนึ่ง ก็ถือว่าผิดนัดทุกงวด ไม่ว่าจะมีข้อตกลงเช่นนั้นหรือไม่ (โปรด
ดูคําพิพากษาฎีกาที่ 521/2510 และ 3027/2528)
คําพิพากษาฎีกาที่ 521/2510 จําเลยทําสัญญายอมความชําระหนี้จํานองจํานวนหนึ่ง โดยมี
ข้อตกลงว่า ต้องชําระภายในวันที่ 1 ของทุกเดือน เดือนละ 1,000 บาทแต่ไม่มีข้อความว่าถ้าผิดนัดงวด
ใดงวดหนึ่งให้ถือว่าผิดนัดทั้งหมด เมื่อ จําเลยไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงนี้ ก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้ผิดนัดสัญญายอม
การที่ จําเลยตกลงกําหนดชําระหนี้เป็นงวดๆ นี้หาได้แยกหนี้ออกเป็นรายๆ ต่างรายกันไม่ เหตุนี้เมื่อ
จําเลยไม่ชําระหนี้ตามกําหนดเวลาที่ตกลงไว้ แม้แต่งวดหนึ่งงวดใด ก็ย่อมตกเป็นผู้ผิดนัดชําระหนี้จํานอง
รายนั้นทั้งหมด หาใช่ผิดนัดแต่เฉพาะงวดไม่
(2.2) หนี้ที่มีก าหนดเวลาช าระหนี้โดยค านวณตามปฏิทินนับจากวันบอกกล่าว
ส่วนใหญ่มักจะเป็นหนี้ในอนาคตที่เกิดจากการใช้บริการหรือซื้อสินค้าเชื่อ เช่น ค่า
โทรศัพท์มือถือรายเดือน เป็นต้น ดังนั้น จึงบอกกล่าวเมื่อใดก็ได้เมื่อเกิดหนี้แล้วโดยวิธีการบอกกล่าวจะ
เป็นหนังสือหรือวาจาก็ได้ และวิธีการนับ ให้นับแต่วันที่ได้รับคําบอกกล่าว แต่ถ้าบอกกล่าวเป็นหนังสือ
ให้นับแต่วันที่คําบอกกล่าวไปถึงลูกหนี้ ถ้าไม่มีคําบอกกล่าว หนี้นั้นย่อมไม่ถึงกําหนดชําระและลูกหนี้ไม่
อาจตกเป็นผู้ผิดนัดได้เลย
คําถาม ตามสัญญาโฆษณากําหนดวันชําระหนี้ไว้ว่าชําระหลังวันโฆษณาภายใน 30 วัน ส่วนวัน
โฆษณาคือวันที่ 4 และ 9 ธ.ค. 2540 ต่อมาพนักงานของ โจทก์ไปส่งใบแจ้งหนี้และใบวางบิลให้ จําเลย
จําเลยระบุในใบรับวางบิลว่า โปรดมารับเงินวันที่ 13 มี.ค. 2541 โจทก์มิได้ทักท้วง ในภายหลัง จําเลยไม่
ชําระหนี้ โจทก์คิดดอกเบี้ยผิดนัดได้หรือไม่ อย่างไร
คําตอบ โปรดดูคําพิพากษาฎีกาที่ 997/2551
(3) ลูกหนี้ผิดนัดตั้งแต่เวลาท าละเมิด
มาตรา 206 บัญญัติว่า “ในกรณีหนี้อันเกิดแต่มูลละเมิด ลูกหนี้ได้ชื่อว่าผิดนัดมาแต่เวลาที่ท า
ละเมิด”
กรณีนี้ไม่มีกําหนดเวลาบังคับโดยสภาพ จึงไม่นํามาตรา 203 มาปรับใช้ (เทียบเคียง คําพิพากษา
ฎีกาที่ 1812/2535) และถือเป็นการผิดนัดทันทีโดยไม่ต้องเตือน (โปรดดูคําพิพากษาฎีกาที่ 5156/2542
และคําพิพากษาฎีกาที่ 3480/2550) ถือเป็นหนี้ที่ถึงกําหนดเวลาชําระโดยพลัน
ลูกหนี้ที่ต้องรับผิดในมูลละเมิด อาจเป็นผู้กระทําละเมิดเองหรือเป็นผู้ต้องรับผิดเพื่อการกระทํา
ของผู้อื่นก็ได้ เช่น นายจ้าง-ลูกจ้าง (คําพิพากษาฎีกาที่ 174/2528) ตัวการ-ตัวแทน เป็นต้น หนี้ละเมิด
รวมถึงค่าเสียหายในอนาคต เช่น ค่าขาดไร้อุปการะตามมาตรา 443 เป็นต้น (โปรดดูคําพิพากษาฎีกาที่
2959/2529 และ 1812/2535)
30