Page 34 -
P. 34

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี





                          3.3.4.5 เจ้าหนี้มีสิทธิเรียกดอกเบี้ยในค่าสินไหมทดแทนเพื่อราคาวัตถุ
                          มาตรา 225 “ถ้าลูกหนี้จ าต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อราคาวัตถุอันได้เสื่อมเสียไปในระหว่างผิด

                   นัดก็ดี หรือวัตถุอันไม่อาจส่งมอบได้เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งอันเดิขึ้นระหว่างผิดนัดก็ดี ท่านว่าเจ้าหนี้
                   จะเรียกดอกเบี้ยในจ านวนที่จะต้องใช้เป็นค่าสินไหมทดแทนคิดตั้งแต่เวลาอันเป็นฐานที่ตั้งแห่งการกะ
                   ประมาณราคมนั้นก็ได้ วิธีเดียวกันนี้ท่านให้ใช้ตลอดถึงการที่ลูกหนี้จ าต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการที่
                   ราคาวัตถุตกต่ าเพราะวัตถุนั้นเสื่อมเสียลงในระหว่างเวลาที่ผิดนัดนั้นด้วย”

                          หนี้ตามมาตรา 225 เป็นหนี้ส่งมอบวัตถุ ไม่ใช่มูลหนี้เงินมาแต่มูลหนี้เดิม แต่ให้ถือเสมือนว่าเป็น
                   หนี้เงิน คิดดอกเบี้ยตามมาตรา  224  เช่นเดียวกัน ลูกหนี้ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนในกรณี (1) เพื่อราคา
                   วัตถุอันได้เสื่อมเสียไประหว่างผิดนัด (2) เพื่อราคาวัตถุอันไม่อาจส่งมอบได้เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่ง
                   และ (3) เพื่อการที่ราคาวัตถุตกต่ําเพราะวัตถุนั้นเสื่อมลง ในระหว่างผิดนัด


                          3.3.4.6 เจ้าหนี้มีสิทธิบอกเลิกสัญญา
                          มาตรา 387 “ถ้าคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งไม่ช าระหนี้ อีกฝ่ายหนึ่งจะก าหนดระยะเวลาพอสมควร แล้ว
                   บอกกล่าวให้ฝ่ายนั้นช าระหนี้ภายในระยะเวลานั้นก็ได้ ถ้าและฝ่ายนั้นไม่ช าระหนี้ภายในระยะเวลาที่

                   ก าหนดให้ไซร้ อีกฝ่ายหนึ่งจะเลอกสัญญาเสียก็ได้”
                          มาตรา 388 “ถ้าวัตถุที่ประสงค์แห่งสัญญานั้น ว่าโดยสภาพหรือโดยเจตนาที่คู่สัญญาได้แสดงไว้
                   จะเป็นผลส าเร็จได้ก็แต่ด้วยการช าระหนี้ ณ เวลามีก าหนดก็ดี หรือภายในระยะเวลาอันใดอันหนึ่งซึ่ง

                   ก าหนดไว้ก็ดี และก าหนดเวลาหรือระยะเวลานั้นได้ล่วงพ้นไปโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมิได้ช าระหนี้ไซร้ ท่าน
                   ว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะเลิกสัญญานั้นเสียก็ได้ มิพักต้องบอกกล่าวดังว่าไว้ในมาตราก่อนนั้นเลย”
                          หากกําหนดเวลาชําระหนี้เป็นสาระสําคัญ เจ้าหนี้มีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ทันที ตามมาตรา 388
                  หากกําหนดเวลาไม่เป็นสาระสําคัญ เจ้าหนี้จะบอกเลิกสัญญาได้ต่อเมื่อได้บอกกล่าวกําหนดเวลาพอสมควร
                  ให้ ลูกหนี้ชําระหนี้ หาก ลูกหนี้ไม่ชําระหนี้ภายในกําหนดดังกล่าว เจ้าหนี้จึงมีสิทธิบอกเลิกสัญญา ตาม

                  มาตรา 387

                          3.4 เจ้าหนี้ผิดนัด

                          3.4.1 เหตุที่ท าให้เจ้าหนี้ตกเป็นผู้ผิดนัด
                          3.4.1.1 เจ้าหนี้ไม่รับช าระหนี้
                          มาตรา 207  “ถ้าลูกหนี้ขอปฏิบัติการช าระหนี้ และเจ้าหนี้ไม่รับช าระหนี้นั้นโดยปราศจาก
                   มูลเหตุอันจะอ้างกฎหมายได้ไซร้ ท่านว่าเจ้าหนี้ตกเป็นผู้ผิดนัด”

                          มาตรา 208 “การช าระหนี้จะให้ส าเร็จผลเป็นอย่างใด ลูกหนี้จะต้องขอปฏิบัติการช าระหนี้ต่อ
                   เจ้าหนี้เป็นอย่างนั้นโดยตรง
                          แต่ถ้าเจ้าหนี้ได้แสดงแก่ลูกหนี้ว่า จะไม่รับช าระหนี้ก็ดีหรือเพื่อที่จะช าระหนี้จ าเป็นที่เจ้าหนี้
                   จะต้องกระท าการอย่างใดอย่างหนึ่งก่อนก็ดี ลูกหนี้จะบอกกล่าวแก่เจ้าหนี้ว่า ได้เตรียมการที่จะช าระหนี้

                   ไว้พร้อมเสร็จแล้ว ให้เจ้าหนี้รับช าระหนี้นั้น เท่านี้ก็นับว่าเป็นการเพียงพอแล้ว ในกรณีเช่นนี้ท่านว่าค า
                   บอกกล่าวของลูกหนี้นั้นก็เสมอกับค าขอปฏิบัติการช าระหนี้”
                          มาตรา 207 เป็นเหตุที่ลูกหนี้ขอปฏิบัติการชําระหนี้แล้วแต่เจ้าหนี้ไม่รับชําระหนี้ โดยปราศจาก
                   มูลเหตุอันจะอ้างกฎหมายได้     และต้องเป็นการขอปฏิบัติการชําระหนี้ที่  ไม่มีเงื่อนไข ด้วย

                   (โปรดดูคําพิพากษาฎีกาที่ 389/2548)





                                                             34
   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39