Page 38 -
P. 38

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี





                          3.5 การบังคับช าระหนี้
                          3.5.1 การบังคับช าระหนี้โดยเฉพาะเจาะจง

                          มาตรา 213 “ถ้าลูกหนี้ละเลยเสียไม่ช าระหนี้ของตน เจ้าหนี้จะร้องขอต่อศาลให้สั่งบังคับช าระ
                   หนี้ก็ได้ เว้นแต่สภาพแห่งหนี้ไม่เปิดช่องให้ท าเช่นนั้นได้
                          เมื่อสภาพแห่งหนี้ไม่เปิดช่องให้บังคับช าระหนี้ได้ ถ้าวัตถุแห่งหนี้ปํนอันให้กระท าการอันหนึ่งอัน
                   ใด เจ้าหนี้จะร้องขอต่อศาลให้สั่งบังคับให้บุคคลภายนอกกระท าการอันนั้นโดยให้ลูกหนี้เสียค่าใช้จ่ายให้ก็

                   ได้ แต่ถ้าวัตถุแห่งหนี้เป็นอันให้กระท านิติกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งไซร้ ศาลจะสั่งให้ถือเอาตามค าพิพากษา
                   แสดงเจตนาของลูกหนี้ก็ได้
                          ส่วนหนี้ซึ่งมีวัตถุเป็นอันจะให้งดเว้นการอันใด เจ้าหนี้จะเรียกร้องให้รื่อถอนการที่ได้กระท าลง
                   แล้วนั้นโดยให้ลูกหนี้เสียค่าใช้จ่าย และให้จัดการอันสมควรเพื่อกาลภายหน้าด้วยก็ได้

                          อนึ่ง บทบัญญัติในวรรคทั้งหลายที่กล่าวมาก่อนนี้ หากระทบกระทั่งถึงสิทธิที่จะเรียกเอา
                   ค่าเสียหายไม่”
                          มาตรา 213  วรรคแรก ให้สิทธิเจ้าหนี้ใช้สิทธิทางศาลฟูองร้องบังคับ ลูกหนี้ที่ละเลยไม่ชําระหนี้
                   ตนและมีสิทธิเรียกค่าเสียหายได้ด้วย

                    สําหรับหนี้ที่เกิดจากมูลสัญญา การที่ลูกหนี้ไม่ชําระหนี้ เจ้าหนี้ย่อมมีสิทธิที่จะบังคับชําระหนี้
                   ตามมาตรา 213 หรือใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาตามมาตรา  386 – 388 อย่างใดอย่างหนึ่งเพียงอย่างเดียว
                   เพราะหากใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา คู่สัญญากลับสู่ฐานะเดิมตามมาตรา  391 ย่อมไม่มีมูลหนี้ที่จะเรียกร้อง

                   ระหว่างกัน (โปรดดูคําพิพากษาฎีกาที่  510/2545)  และหากเลือกฟูองคดี แม้สัญญาจะระบุให้เรียก
                   ค่าเสียหายได้เท่านั้น เจ้าหนี้ก็มีสิทธิบังคับตามมาตรา   213  ได้เสมอ (โปรดดูคําพิพากษาฎีกาที่
                   6705/2540)
                          “สภาพแห่งหนี้ไม่เปิดช่องให้กระท าเช่นนั้นได้”
                    หากสภาพแห่งหนี้อันใดไม่สามารถบังคับชําระหนี้โดยเฉพาะเจาะจงได้หรือไม่เปิดช่องให้บังคับ

                   ชําระหนี้ได้ เจ้าหนี้ต้องใช้วิธีอื่นบังคับแทนตามที่มาตรา 213 กําหนดหรือเรียกให้ชดใช้ค่าเสียหายเท่านั้น
                   จะบังคับเป็นอย่างอื่นไม่ได้ หากเจ้าหนี้จะบังคับเป็นอย่างอื่น ต้องตกลงเป็นแปลงหนี้ใหม่ ซึ่งส่งผลให้หนี้
                   เดิมระงับ หากลูกหนี้ชําระหนี้เป็นอย่างอื่นและเจ้าหนี้ยอมรับ หนี้ก็ระงับไปตามมาตรา 321

                          คําพิพากษาฎีกาที่  230/2533  สัญญาจะซื้อจะขายเป็นสัญญาที่กําหนดให้โอนกรรมสิทธิ์ใน
                   ทรัพย์สินกันภายหน้า แม้ขณะทําสัญญา ผู้จะขายยังไม่มีกรรมสิทธิ์หรือกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินยังไม่
                   สมบูรณ์ สัญญาก็มีผลบังคับแล้ว ผู้จะซื้อที่ดินย่อมฟูองบังคับให้เจ้าของที่ดินไปจดทะเบียนโอนที่ดินแก่
                   ตนได้ แม้จะมีชื่อผู้อื่นในหนังสือสําคัญสําหรับที่ดินนั้นแทนเจ้าของที่อยู่ก็ตาม  กรณีมิใช่สภาพแห่งหนี้ไม่

                   เปิดช่อง แต่เป็นเรื่องการปฏิบัติทางทะเบียนเท่านั้น
                          คําพิพากษาฎีกาที่ 3407/2529 ศาลพิพากษาให้จําเลยจัดการโอนกรรมสิทธิ์และส่งมอบบ้านให้
                   โจทก์ภายหลัง โจทก์และจําเลยตกลงกันในศาลว่าหากโจทก์มีสิทธิในการเช่าที่ปลูกบ้าน จําเลยจะมอบ
                   บ้านพิพาทให้โจทก์โดยไม่ต้องรื้อ หากจําเลยมีสิทธิการเช่า โจทก์ต้องรื้อถอนบ้าน เป็นการตกลงเกี่ยวกับ

                   วิธีการส่งมอบบ้านมีผลบังคับทั้งสองฝุาย เมื่อปรากฏว่า จําเลยเป็นผู้มีสิทธิการเช่าและโจทก์ไม่ยอมรื้อ
                   บ้าน ศาลชั้นต้นมีอํานาจอนุญาตให้จําเลยรื้อถอนและสั่งให้ โจทก์เสียค่าใช้จ่ายได้ตามมาตรา  213 ส่วน
                   ค่ารักษาทรัพย์ที่รื้อถอน หากโจทก์มิได้ตกลงด้วย ศาลชั้นต้นก็ไม่มีอํานาจสั่งให้ โจทก์ชําระ
                          คําพิพากษาฎีกาที่  1396/2512  กรณีที่ศาลพิพากษาและบังคับจําเลยให้รื้อถอนเรือนสิ่งปลูก

                   สร้างออกไปจากที่ดินของโจทก์นั้น แม้บ้านเรือนสิ่งปลูกสร้างของจําเลยจะถูกยึดไว้ในคดีอื่นเพื่อขาย





                                                             38
   33   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43