Page 26 -
P. 26
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ตารางที่ 2.5 ผลผลิตจากการเพาะเลี้ยงที่ส�าคัญในประเทศไทย ปี 2554
ชนิดสัตว์น�้า (อันดับที่; ปริมาณ: พันตัน; ส่วนแบ่งผลผลิตเพาะเลี้ยงทั้งหมด: %)
ไทย ปริมาณรวม 1,008.049 พันตัน
น�้าจืด (2 ; 338.8, 33.61%) น�้ากร่อย (1 ; 533.8; 52.95%) ทะเล (3 ; 135.5, 13.44%)
rd
st
nd
ปลานิล (2 ; 139.4; 13.83%) กุ้งขาว (1 ; 511.4; 50.74%) หอยแมลงภู่ (4 ; 84.7; 8.40%)
th
st
nd
rd
th
th
ปลาดุก (3 ; 95.4; 9.46%) ปลากะพงขาว (8 ; 16.3; 1.62%) หอยแครง (5 ; 40.5; 4.02%)
th
th
ปลาตะเพียน (6 ; 34.1; 3.38%) ปลากะรัง (12 ; 3.2; 0.32%) หอยนางรม (11 ; 10.3; 1.02%)
th
กุ้งก้ามกราม (7 ; 19.3; 1.92%)
th
ปลาสลิด (9 ; 15.9; 1.58%)
th
ปลาสวาย (11 ; 15.3; 1.51%)
th
ที่มา: ค�านวณจากข้อมูลของ Food and Agriculture Organization (2010)
2.6 การเพาะเลี้ยงสัตว์น�้าของสหภาพพม่า
สหภาพพม่ามีแม่น�้าและล�าน�้าสาขาจากพื้นที่ตอนเหนือ ซึ่งมีอากาศเย็นและเป็นพื้นที่ภูเขา
จรดพื้นที่ตอนใต้ซึ่งอากาศอบอุ่น ทั้งยังมีพื้นที่ชายฝั่งทะเลในตอนใต้ที่มีพื้นที่เพาะเลี้ยงทั้งในน�้าจืด
และในน�้ากร่อย โดยเฉพาะบริเวณดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น�้าอิระวดี การเลี้ยงปลาในสหภาพ
พม่านอกจากปลานิลที่เลี้ยงกันมาก โดยเลี้ยงในกระชังแบบพัฒนาแถบแม่น�้าอิระวดี ส่วนมากยัง
เลี้ยงหลายชนิดร่วมกัน (Poly-culture) ยังใช้ร�าข้าวและมีการใช้ปุ๋ยอินทรีย์จากมูลสัตว์ แต่มีการ
ส่งเสริมให้ใช้อาหารส�าเร็จรูปมากขึ้นเพื่อรักษาคุณภาพน�้า ในส่วนของการเลี้ยงกุ้งยังต้องน�าเข้า
อาหารกุ้งจากประเทศใกล้เคียงรวมทั้งจากประเทศไทย รัฐบาลสหภาพพม่าสนับสนุนให้มีการตั้ง
โรงงานอาหารสัตว์เพื่อใช้ในประเทศซึ่งได้รับความร่วมมือด้านเทคโนโลยีจากหลายประเทศ
เช่น ไต้หวัน จีน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ปลาพื้นเมืองที่เป็นที่นิยมมากที่สุดใน
สหภาพพม่า คือ ปลายี่สกเทศ แต่ก็มีการเลี้ยงปลานิลแบบพัฒนาเพิ่มขึ้นในระยะหลัง ปลานิล
เป็นที่นิยมของผู้บริโภคในประเทศมากขึ้น เช่นเดียวกับปลาสวายที่น�าพันธุ์ไปจากประเทศไทย
ที่มักจะเลี้ยงในกระชัง ส�าหรับปลาไนเลี้ยงกันในที่สูงอากาศเย็นเป็นการเลี้ยงในชนบท ปลาไนเป็น
ปลาที่เลี้ยงง่าย ใช้เป็นอาหารในครัวเรือนได้เร็ว ส่วนสัตว์น�้าที่ขายได้ราคาดี ได้แก่ ปลาสวาย ปลา
ยี่สกเทศ กุ้งกุลาด�า และกุ้งก้ามกราม ผลผลิตจากการเพาะเลี้ยงสัตว์น�้าของสหภาพพม่าเพิ่มขึ้น
รวดเร็วในระยะสิบกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากการที่รัฐสนับสนุนทั้งงานวิจัยและฝึกอบรมเพื่อเพิ่ม
อาหารโปรตีนที่มีต้นทุนต�่าส�าหรับการบริโภคในประเทศและการเลี้ยงกุ้งเพื่อส่งออก
สหภาพพม่ามีผลผลิตจากการเพาะเลี้ยงเป็นรองประเทศไทย ในปี 2554 มีผลผลิต 0.817
ล้านตัน ต�่ากว่าผลผลิตของประเทศไทยเกือบสองแสนตัน แต่อัตราเพิ่มของผลผลิตจากการเพาะเลี้ยง
ของสหภาพพม่าสูงถึงร้อยละ 23.80 ต่อปี สูงเป็นกว่าสองเท่าของอัตราเพิ่มของประเทศไทย
ทั้งสหภาพพม่ายังมีพื้นที่ที่สามารถพัฒนามาใช้เพาะเลี้ยงอีกมากมีโอกาสที่จะเป็นคู่แข่งที่ส�าคัญ
ของไทยในอนาคต
สถานภาพการเพาะเลี้ยงสัตว์น�้าไทยในบริบทของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน >> I 17 I