Page 40 -
P. 40

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว




               แก้วิกฤตปัญหาสิ่งแวดล้อม นำ้าท่วมและนำ้าแล้ง การชะล้างพังทลายของหน้าดินทางตอนเหนือของจีน
               โดยวัตถุประสงค์ของโครงการ SLCP คือ การปรับเปลี่ยนพื้นที่ชันที่ถูกแผ้วถางนำาไปใช้ทำาการเกษตร
               และพื้นที่ทุ่งหญ้าเสื่อมสภาพในพื้นที่ลุ่มนำ้าเหลืองและแยงซีเกียงและอื่นๆ ให้กลับเป็นพื้นที่ป่าและทุ่ง
                                                              12
               หญ้าที่สมบูรณ์เหมือนเดิม (Ecological / Economic Forests)  และต้องการผลักดันให้เกษตรกร
               เปลี่ยนพฤติกรรมไปสู่การทำาการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมหรือการเกษตรที่ยั่งยืน เช่น การทำา
               ปศุสัตว์ ทำางานนอกภาคเกษตร

                     โครงการนี้เริ่มต้นดำาเนินการใน 120 อำาเภอของมณฑลเสฉวน และขยายเป็นโครงการระดับ
               ประเทศในปี ค.ศ. 2001 โดยรัฐบาลมีเป้าหมายตั้งต้น เพื่อเปลี่ยนพื้นที่ลาดชันในการเพาะปลูกเป็นพื้นที่
               ป่าและทุ่งหญ้าทั้งหมด 32 ล้านเฮกเตอร์ ภายใน 10 ปี (2002-2011)
                     ในการดำาเนินงาน รัฐบาลจะให้ค่าตอบแทนเป็นธัญพืชกับเกษตรกรที่ยอมหยุดใช้พื้นที่เพื่อการ
               เพาะปลูกโดยกำาหนดอัตราที่ 2.55 ตัน/ปี/ไร่ สำาหรับพื้นที่ตอนบนของแม่นำ้าแยงซีเกียง และ 1.5 ตัน/
               ปี/ไร่ สำาหรับพื้นที่ตอนบนและตอนกลางของแม่นำ้าเหลือง ทำาให้นโยบายนี้เป็นที่รู้จักกันในนามว่า “Grain
               for green” ซึ่งหากคิดราคาธัญพืชที่ 1,400 หยวน/ตัน จะเท่ากับว่ารัฐบาลอุดหนุนโครงการ SLCP ด้วย
               งบประมาณ 337 ล้านหยวน หรือ 40 ล้านเหรียญภายในปี ค.ศ. 2011

                     ช่วงแรกของการให้ค่าตอบแทนเป็นธัญพืชทำาได้ไม่ลำาบากนักเพราะจีนมีอุปทานส่วนเกินของ
               ธัญพืชอยู่และการอุดหนุนในลักษณะนี้ช่วยแก้ปัญหาความยากจนในพื้นที่ด้วย (Xu et al., 2006) โดย
               เกษตรกรและรัฐบาลท้องถิ่นตอบรับโครงการ SLCP เป็นอย่างดี มีอย่างน้อย 60 ล้านครัวเรือนที่เข้าร่วม
               โครงการ และคิดเป็นพื้นที่มากกว่า 7 ล้านเฮกเตอร์ การที่มีจำานวนครัวเรือนเข้าร่วมโครงการเป็นจำานวน
               มากก็เพราะค่าตอบแทนทั้งรูปเงินและธัญพืชมีมูลค่าสูงมากกว่ารายได้เฉลี่ยของแต่ละครัวเรือนก่อนเข้า
               โครงการและธัญพืช/อาหารที่ได้รับตอบแทนก็สูงกว่าปริมาณทั่วไปที่เกษตรกรเหล่านี้ผลิตได้ นอกจาก
               นี้ รายได้ที่เพิ่มขึ้นของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการโดยมากมาจากการที่เกษตรกรมีโอกาสทำางานอื่นนอก
               เหนือไปจากการเพาะปลูกบนที่ชันมากขึ้น ซึ่งรายได้จากการทำาปศุสัตว์และรายได้จากงานนอกภาค
               เกษตรสูงขึ้นหลังจากเข้าร่วมโครงการได้ 3 ปี
                       อย่างไรก็ดี จากงานศึกษาลักษณะการดำาเนินโครงการ (Uchida et al., 2005; Zhigang et
               al., 2004; Xu et al., 2006) พบว่าปัญหาที่โครงการประสบในช่วงกลางของโครงการและอาจกลาย
               เป็นปัญหาใหญ่ในช่วงปลายคือ การที่โครงการไม่ให้ความสำาคัญกับการมีส่วนร่วมจากภาคประชาชน
               และองค์กรท้องถิ่นในการวางแผนและออกแบบเครื่องมือ รวมถึงรัฐบาลกลางยึดติดการงานบริหารทั่วไป
               มากเกินไป เกษตรกรส่วนมากระบุว่าตนไม่ได้รับการติดต่อก่อนการดำาเนินโครงการ เกษตรกรไม่มีสิทธิ์
               เลือกแปลงหรือจำานวนแปลงที่จะเอาเข้าร่วมโครงการ โดยมักเจอแรงกดดันจากเจ้าหน้าที่ในการเลือก
               พื้นที่เข้าโครงการและไม่มีสิทธิ์เลือกพันธุ์พืชหรือชนิดต้นไม้ที่จะนำามาปลูก เมื่อไม่ได้รับการให้คำาปรึกษา
               หรือการมีส่วนร่วมที่เพียงพอทำาให้เกษตรกรส่วนใหญ่ดูแลพืชและต้นไม้ไม่ถูกต้องอัตราการเติบโตและ
               การอยู่รอดของพืชตำ่า





               12  ดู Xu et al. (2006)



                              Highland Maize Farming and Deforestion: Problem and Restorations  29
   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44   45