Page 42 -
P. 42

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว




                     อย่างไรก็ดี จากการประเมินความสำาเร็จของโครงการพบว่าจำานวนผู้เข้าร่วมโครงการค่อนข้าง
               น้อย คุณภาพของป่าที่ปลูกค่อนข้างตำ่าและอัตราการอยู่รอดของต้นไม้ที่ปลูกตำ่ามีปัญหาเรื่องการบริหาร
               จัดการ เนื่องจากขาดความรู้ ความเข้าใจในการดูแลและรักษาพันธุ์ที่ปลูก (Thatcher et al., 1997)

                     โครงการ PSA
                     โครงการ PSA เริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 1997 เป็นโครงการตามแนวทางการจ่ายค่าตอบแทนการให้
               บริการของระบบนิเวศ (Payment for Ecosystem Services: PES) ของคอสตาริกา เป็นโครงการที่ได้
               รับความสนใจจากนักวิชาการและนักวิจัยอย่างมาก มีการศึกษาทั้งประเมินความสำาเร็จของโครงการใน
               ระดับภูมิภาคและระดับชาติ
                     หลักการสำาคัญของโครงการคือ การจ่ายค่าตอบแทนให้กับผู้อนุรักษ์ป่า ด้วยเห็นว่าป่าให้บริการ

               ระบบนิเวศถึง 4 ด้านหลักด้วยกัน ได้แก่ 1) การกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon sequestra-
               tion) 2) การให้นำ้าสะอาด 3) การอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ และ 4) ทัศนียภาพที่สวยงาม
               ซึ่งค่าตอบแทนจากการเข้าร่วมโครงการ PSA จะสะท้อนต้นทุนค่าเสียโอกาสที่เจ้าของที่ดินต้องเผชิญใน
               การพยายามรักษาป่าในพื้นที่ที่ตนครอบครองต่อไป และขนาดของค่าตอบแทนจะแตกต่างกันไปตาม
               เป้าหมายของพื้นที่ที่จดทะเบียนในโครงการ ได้แก่ 1) เป้าหมายเพื่อการอนุรักษ์ (Conservation) 2)
               เป้าหมายเพื่อปลูกป่าใหม่ในพื้นที่เคยเป็นป่า (Reforestation) และ 3) เป้าหมายเพื่อการทำาเกษตรผสม
               ผสานการอนุรักษ์ป่า (Agroforestry) โดยขนาดของค่าตอบแทนในปี ค.ศ. 2007 อยู่ที่ $22 - $42 ต่อ
               ปีต่อเฮกเตอร์โดยประมาณ
                     การออกแบบโครงการได้รับความช่วยเหลือเป็นอย่างดีจากผู้เชี่ยวชาญจากธนาคารโลก (World
               bank) และ USAID เพื่อที่จะเข้ามาทดแทนระบบการอุดหนุนเดิมของรัฐในลักษณะของการให้เงินอุดหนุน
               (Subsidy) ในภาคเกษตรและอุตสาหกรรมพร้อมๆ กันรวมทั้งภาคป่าไม้ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ถือเป็น
               เงื่อนไขสำาคัญหนึ่งของการกู้เงินจากธนาคารโลก ผู้ออกแบบพยายามเชื่อมผู้ซื้อบริการทางระบบนิเวศสู่
               ผู้ขายและให้อัตราค่าตอบแทนที่ถูกกำาหนดโดยตลาด

                       อย่างไรก็ตามในทางปฏิบัติ PSA ต่างจากความคาดหวังเดิมเมื่อเริ่มต้นมาก (Edelman, 1999)
               และกลายเป็นรูปแบบลูกผสมระหว่างกลไกตลาดและการแทรกแซงจากภาครัฐ เนื่องจากในการบริหาร
               จัดการจริง บุคลากรส่วนใหญ่ของ PSA มักไม่คำานึงถึงปรัชญาที่มาของเครื่องมือ แต่จะเน้นการหาแนวทาง
               แก้ปัญหาความยากจนและปัญหาการตัดไม้ทำาลายป่าที่มีประสิทธิภาพด้านต้นทุนมากที่สุด โดยจะเป็น
               แบบกลไกตลาดเป็นพื้นฐานหรือแบบอื่นก็ได้ (Fletcher and Breitling, 2012)
                       ปัญหาที่สำาคัญประการหนึ่งของโครงการ PSA คือ ค่าตอบแทนของการเข้าร่วม PSA ที่ถือว่า
               ยังน้อยกว่าต้นทุนค่าเสียโอกาสของเจ้าของที่ดิน ทำาให้ในที่สุดกลุ่มเป้าหมายเลยกลายเป็นคนที่ไม่จำาเป็น
               ต้องพึ่งพาค่าตอบแทนจากโครงการ PSA เพื่อการอยู่รอด และที่ดินที่นำามาเข้าร่วมก็กลายเป็นที่ดินที่ให้
               ผลผลิตตำ่า มีต้นทุนค่าเสียโอกาสตำ่า พื้นที่ที่เอามาเข้าโครงการเป็นพื้นที่ที่ทำาอย่างอื่นได้ยากอยู่แล้ว ดัง
               นั้นการทำาลายป่าก็อาจจะไม่เกิดขึ้นถึงแม้จะไม่มีโครงการก็ตาม และคนที่เข้าร่วมส่วนใหญ่เป็นคนที่มี
               ความต้องการและเห็นค่าของการอนุรักษ์อยู่แล้ว ถึงแม้จะไม่มีเครื่องมือสร้างแรงจูงใจก็จะยังอนุรักษ์ป่า
               (Langholz et al., 2000; Bien, 2002)





                              Highland Maize Farming and Deforestion: Problem and Restorations  31
   37   38   39   40   41   42   43   44   45   46   47