Page 18 -
P. 18
ิ
์
ื
ิ
ั
ุ
ิ
ิ
โครงการพัฒนาหนังสออเล็กทรอนกสเฉลมพระเกียรต สมเด็จพระเทพรตนราชสดาฯ สยามบรมราชกุมาร ี
2.1.3 ความเฉื่อยของแขนขา
ื
ความเฉ่อยของแขนขา (Limb Inertia) ในร่างกายมนุษย์ กล้ามเนื้อ
ื
ยึดติดอยู่กับกระดูก เม่อเราเกร็งกล้ามเน้อจะเกิดแรงจากภายนอกหรือแรงหดตัวของกล้ามเน้อ
ื
ื
ึ
ื
ื
ื
ซ่งกระทาต่อกระดูกทาให้เกิดการเคล่อนท เม่อกล้ามเน้อมัดหน่งหดตัวเพ่อทาให้เกิดแรง กล้ามเน้อ
�
�
�
ื
ื
่
ี
ึ
ื
�
ี
�
ื
อีกมัดท่อยู่ตรงข้ามก็จะคลายตัว ทาให้ข้อต่อเคล่อนไหว การทางานของกระดูกและกล้ามเน้อ
เป็นการท�างานใน “ระบบคาน” ท�าให้เราสามารถใช้แรงจากกล้ามเนื้อ เพื่อให้ร่างกายเคลื่อนไหว
ี
ั
ี
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ท้งน้ข้นอยู่กับท้งความแข็งแรงของกล้ามเน้อมัดท่หดตัว และความสามารถ
ึ
ั
ื
ในการคลายตัวของกล้ามเนื้อมัดที่อยู่ตรงข้าม
ในการเคลื่อนไหวบนบก อากาศไม่มีความหนืดและแรงต้าน เว้นแต่ว่า
จะเคล่อนไหวด้วยความเร็วท่สูงมาก แรงต้านการเคล่อนไหวท่รู้สึกได้เม่อเคล่อนไหวบนบก คือ การ
ื
ี
ี
ื
ื
ื
�
�
ื
ื
ื
เคล่อนไหวต้านแรงโน้มถ่วง หรือเม่อมีแรงเสียดทานกระทาต่อพ้น แต่สาหรับการออกกาลังกายใน
�
�
นา แรงต้านท่กระทาต่อแขนขาเกิดจากการเคล่อนไหวแขนหรือขา ซ่งเป็นผลจากการผสมผสาน
ี
ื
ึ
้
�
็
ระหวางความหนดของนาและความเรวในการเคลอนไหวของแขนขา เมอเปรยบเทยบกบความเรว
ื
ี
็
ั
ี
่
ื
้
�
ื
่
่
ในการเคลื่อนที่ของน�้า เมื่อร่างกายทั้งหมดเคลื่อนที่ในแนวตรง แรงจากการเคลื่อนที่จะท�าให้เกิด
แรงเฉื่อยของการเริ่ม การเปลี่ยนทิศทาง การหยุด ท�าให้ต้องใช้แรงหรือพลังงานมากขึ้นในการเริ่ม
หรือเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนไหว ดังนั้น จึงมีความต้องการพลังงานเพิ่ม เพื่อใช้ในการเคลื่อนไหว
ี
�
ิ
ื
แขนขาหรือร่างกายจากภาวะหยุดน่งให้เปล่ยนไปสู่การเคล่อนไหว หรือการออกกาลังกาย เม่อแขน
ื
ื
�
ขาเคล่อนท่ในนาด้วยความเร็วคงท่ในลักษณะเส้นตรงพลังงานส่วนใหญ่จะถูกนาไปใช้ในการ
ี
�
ี
้
เคลื่อนไหวแขนขา และต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นเมื่อคุณต้องการจะหยุดการเคลื่อนไหวของแขนขา
ิ
ื
ิ
ี
หรือต้องการเปล่ยนทิศทาง การเพ่มความเร็วในการเคล่อนไหวจะเป็นการเพ่มการใช้พลังงานใน
การเคลื่อนไหวก็ต่อเมื่อยังรักษาช่วงการเคลื่อนไหว (Range of motion) ไว้ได้ดังเดิม แต่ถ้าช่วง
การเคลื่อนไหวลดลงโดยเพิ่มความถี่ของการเคลื่อนไหวนั้น การใช้พลังงานจะลดลง ส่วนใหญ่แล้ว
ื
ี
�
่
่
ี
ผ้ทออกกาลงกายมกจะทาให้การเคลอนไหวง่ายขน โดยการลดช่วงการเคลอนไหวลง เมอมการ
ื
ู
่
ั
ั
�
ื
่
ึ
้
เคลื่อนไหวที่เร็วขึ้น
ผู้ฝึกสอนควรทราบวิธีการใช้กฎของแรงเฉ่อย ในการเพิ่มหรือลดความ
ื
่
หนักของการออกกาลังกาย ผู้ท่ออกกาลังกายท่มีความแข็งแรงน้อยอาจแนะนาให้ยาอยู่กับท่นานๆ
ี
ี
�
�
�
ี
�
เช่น 24 ก้าว แทนที่จะเดินหน้าสลับกับถอยหลัง เพื่อลดความหนักในการออกก�าลังกายลง แต่ถ้า
ี
ผู้ท่ออกกาลังกายมีความแข็งแรงมาก ก็ออกแบบให้มีการเดินหน้าถอยหลัง เพื่อสร้างแรงเฉ่อยผ่าน
�
ื
การเริ่ม การหยุด และการเปลี่ยนทิศทาง และใช้แรงเฉื่อยของน�้ามาช่วยในการเพิ่มความหนักใน
�
ื
การออกกาลังกาย ความเข้าใจในเร่องกฎของความเฉ่อยจะช่วยให้ผู้ฝึกสอนสามารถจัดโปรแกรม
ื
การออกก�าลังกาย 11