Page 42 -
P. 42

ิ
                                           ิ
                โครงการหนังสออเล็กทรอนกสเฉลมพระเกียรตสมเด็จพระเทพรตนราชสดาฯ สยามบรมราชกุมาร                 ี
                               ื
                                              ์
                                                                             ั
                                                                                     ุ
                                                 ิ
                                                             ิ
                                                                                                           36

                                                               ิ
                                                                     E
                       (1) ความสอดคล,องกัน (Consensus) เปนการพจารณาวาคนอื่น ๆ จะกระทำหรือมพฤติกรรมที่คล:ายคลึงกัน
                                                         U
                                                                                          ี
                                                                                        ี
                                                      ิ
               หรือไมEในสถานการณQเดียวกันนี้ ถ:าคนอื่นมีพฤตกรรมคล:ายคลึงหรือแบบเดียวกันแสดงวEามความสอดคล:องกันในการ
               กระทำ เชEน วิชัยเข:าชั้นเรียนสาย ขณะที่คนอื่น ๆ เข:าชั้นเรียนทันเวลา แสดงถึงความสอดคล:องของการกระทำต่ำ แตEถา
                                                                                                            :
               คนอื่นเข:าชั้นเรียนสายเหมือนกันกับวิชัย แสดงวEามีความสอดคล:องกันสูง
                       (2) ความคงเส,นคงวา (Consistency) หมายถึง การมีพฤติกรรมแบบเดียวกันหลาย ๆ ครั้งในชEวงเวลาที่ผาน
                                                                                                           E
                                                                                           ี
                                                                                  ิ
               มา ถ:าบุคคลมีการกระทำแบบเดียวกัน แสดงวาพฤติกรรมมีความคงเส:นคงวาสูง เชEน วชัยเข:าชั้นเรยนสายอยูEเสมอในชEวงท ี่
                                                   E
               ผEานมา การเข:าเรียนสายครั้งนี้ไมEแตกตEางไปจากพฤติกรรมที่ผEานมา แสดงวEาการกระทำนี้มีความคงเส:นคงวาสูง ในทาง
                                                                              ิ
                                                                                         ี
                                      ี
               กลับกัน ถ:าโดยปกติวิชัยเข:าเรยนทันเวลามาตลอด แทบจะไมEเคยมาสายเลย พฤตกรรมการมาเรยนสายจึงมีความคงเส:นคง
               วาต่ำ
                                                                                                            ื
                       (3) ความพิเศษหรือความแตกตsาง (Distinctiveness) เปUนการพิจารณาวEาบุคคลมีการกระทำเหมือนหรอ
               แตกตEางกันในสถานการณQอื่น  ความพิเศษหรือความแตกตEางจะต่ำถ:าบุคคลนั้นมีพฤติกรรมที่คล:ายคลึงกันในสถานการณ Q
                                   ั
                                                                ั
                                 :
                                                          ื
                                                                                 :
                                                                      :
                                            ี
                                                                  ็
                                                                    :
                                                                                          ั
                        E
                           :
                 ื
               อ่นดวย เชน ถาวิชยเขาช้นเรียนวิชาน้สาย และในวิชาอ่น ๆ วิชยกเขาหองเรียนสายดวยเหมอนกน แสดงวEาพฤติกรรมการ
                   :
                                                                                      ื
                              ั
               มาเรียนสายมความพิเศษแตกตEางในระดับต่ำ แตEถ:าในวิชาอื่น ๆ วิชัยเข:าห:องเรียนตรงเวลา จะมีวิชานี้เทEานั้นที่เข:าเรียน
                          ี
               สาย แสดงวEาพฤติกรรมการมาเรียนสายมีความพิเศษแตกตEางสูง
                       การพิจารณาปiจจัยทั้ง 3 ข:างต:นประกอบกัน (ความสอดคล:องกัน ความคงเส:นคงวา และความพิเศษแตกตEาง) จะ
                                                                                                            ั
               ทำให:ตัดสินได:วEาพฤติกรรมของบุคคลมีสาเหตุมาจากปiจจัยภายในบุคคล (Internal attributions) หรือจากปiจจย
               สถานการณQภายนอก (Situational attributions) ซึ่งความสามารถในการควบคุมพฤติกรรมเปUนสิ่งที่ชEวยประเมินวEาการ
               กระทำของบุคคลเปUนผลมาจากปiจจัยภายในหรือภายนอก กลEาวคือ เราจะตัดสินวEาสาเหตุของพฤติกรรมมาจากปiจจย
                                                                                                            ั
                                                                                  ิ
               ภายในถาเหนวาผ:กระทำสามารถควบคมพฤตกรรมนนได และจะตดสนวาพฤตกรรมเกดจากปจจยภายนอกถาพจารณาวา
                                                                                                   :
                                                                   ั
                                                                            ิ
                                                                                        i
                                                                       E
                                                                                          ั
                                                                     ิ
                                                           :
                      :
                                                  ิ
                                                                                                            E
                         ็
                             ู
                                              ุ
                           E
                                                        ั
                                                        ้
                                                                                                     ิ
               ผู:กระทำหลีกเลี่ยงไมEได:ที่จะแสดงพฤติกรรมนั้น เราสามารถประเมินสาเหตุของการกระทำของบุคคลหนึ่งได:จากปiจจัยใด
               ปiจจัยหนึ่งเทEานั้น เชEน พิจารณาจากความสอดคล:องกันระหวEางพฤติกรรมของบุคคลนนกับผู:อื่น อยEางไรก็ตาม การ
                                                                                     ั้
               ประเมินจากทั้ง 3 ปจจัยประกอบกันจะยิ่งเพ่มความแมนยำในการระบเหตผลของพฤตกรรมได:มากขึ้น ถ:าความสอดคล:อง
                                                          E
                                                                                  ิ
                               i
                                                                      ุ
                                                  ิ
                                                                         ุ
                                                                                            ุ
               กันสูง ความคงเส:นคงวาต่ำ และความพิเศษแตกตEางสูง ก็เปUนไปได:อยEางมากที่การกระทำมสาเหตจากปiจจัยสถานการณ  Q
                                                                                      ี
               เชEน วันหนึ่งลัดดาพูดคุยกับเพื่อนรEวมงานในฝèายการตลาดน:อยและมีอารมณQขุEนมัว ถ:าพบวEาคนอื่นในฝèายเดียวกันในวันน ี้
                                                                                          Q
                                                                             ู
               พูดน:อยและอารมณไมEดีเหมือนกัน (ความสอดคล:องกันสูง) และโดยปกติลัดดาพดคุยเกEง อารมณดี (ความคงเส:นคงวาต่ำ)
                               Q
                                                             ั
               อีกทั้งในสถานการณQอื่นหรือในการติดตEอกับฝèายอื่น ๆ ลดดารEาเริงแจEมใส และพูดคุยเกEง (ความพิเศษแตกตEางสูง) ก ็
               สันนิษฐานได:วEาพฤติกรรมของลัดดามีสาเหตุจากปiจจัยภายอกหรือสถานการณ เปUนไปได:มากที่มีเหตุการณQใดเกิดขึ้นและ
                                                                            Q
               สEงผลให:ลัดดาอารมณQไมEดี พูดคุยน:อยลง
                                                                                                            ื่
                       ทฤษฎีการให:เหตุผลอธิบายถึงการค:นหาสาเหตุหรือแรงจูงใจในการแสดงพฤติกรรมทั้งของตัวเองและของผู:อน
               โดย Heider ตรวจสอบปiจจัยทางด:านอุปนิสัยและลักษณะของบุคคลกับปiจจัยทางสถานการณQ สEวน Jones และ Davis
                              ื
                                      ั
                           ั
               ใหความสนใจกบเร่องความต้งใจของผ:กระทำท่ผลกดนพฤตกรรมจากบุคลิกภาพและอุปนิสัย (Dispositional behaviors)
                 :
                                                        ั
                                                             ิ
                                                      ั
                                             ู
                                                    ี
   37   38   39   40   41   42   43   44   45   46   47