Page 17 -
P. 17

ิ
                                                 ิ
                                                                                     ุ
                               ื
                                                             ิ
                                           ิ
                                                                             ั
                โครงการหนังสออเล็กทรอนกสเฉลมพระเกียรตสมเด็จพระเทพรตนราชสดาฯ สยามบรมราชกุมาร                 ี
                                              ์
                                                                                                           11

                                                                                              :
                                                              ั
                                                        ี
                                                 ั
                                                                                                        ึ
                                           ื
               (Shared understanding) ในการส่อสาร นกทฤษฎในขนบสญศาสตรQพยายามอธิบายและลดความเขาใจผดท่เกดข้นได :
                                                                                                 ิ
                                                                                                    ี
                                                                                                      ิ
               จากการใช:สัญลักษณQที่คลุมเครือ

                                                   U
                                                                                           Q
                                                E
                                                                                                U
                       การศึกษาตามขนบสัญศาสตรQแบงเปนสEวนตEาง ๆ ได:แกE การศึกษาสัญญะ และสัญลักษณ ซึ่งเปนองคQประกอบ
               พื้นฐาน การศึกษาความสัมพันธQระหวEางสัญญะ และการผสมผสานเชื่อมโยงของสัญญะภายในระบบสัญญะที่ซับซ:อน

                       3.  ทฤษฎีในกลุsมปรากฏการณ@นิยม (The Phenomenological Tradition)

                                     Q
                       ขนบปรากฏการณนิยม (Phenomenology) มุEงเข:าใจและตีความปรากฏการณในสังคมผEานประสบการณตรง
                                                                                    Q
                                                                                                        Q
               (Direct experience) นักปรากฏการณQนิยมมองวEาปiจเจกบุคคลเปUนองคQประกอบสำคัญในกระบวนการสื่อสาร  การ
               ตีความปรากฏการณQตEาง ๆ ล:วนเกี่ยวข:องกับสัญชาตญาณ ความรู:สึก และเปUนการมองสิ่งของและเหตุการณQผEานเลนส Q
                                               E
                                                             ั
                                                                                    ั
                                                                             ี
                                                                                           ั
                                                                                              ั
                                                                                   ี
                                                          E
                              E
                             Q
               ตา ประสบการณตอปรากฏการณของแตละคนจึงแตกตางกนตามการรับรู:และตความ มลกษณะอตวิสย (Subjectivity)
                                         Q
                                                                           ็
                                                                          E
                                                                                            ั
                                                                   E
                                                                      ั
                                                                            ั
                                                                                 U
                                                                                        ู
                                                                              E
                                                                                         ่
                                                                                         ี
                                                         ี
                                                  Q
                                                       ั
                                                    ี
                                                                                                ั
                                      E
               ประสบการณของคนสองคนตอปรากฏการณเดยวกนมความแตกตางกน แตกจดวาเปนความร:ทสำคญ นกปรากฏการณ         Q
                          Q
               นิยมเชื่อวEาการตีความสร:างความจริงให:กับบุคคล และสิ่งตEาง ๆ ในโลกหรือปรากฏการณQไมEได:เปUนอิสระหรือแยกออก
                                                                  ิ่
               จากบุคคลหรือผู:เข:าไปศึกษา  เพราะคนเปUนผู:ให:ความหมายแกEสงตEาง ๆ โดยได:รับอิทธิพลจากความสัมพันธQของบุคคล
               กับสิ่งตEาง ๆ เหลEานั้นด:วย

                       4.  ทฤษฎีในกลุsมไซเบอร@เนติค (The Cybernetic Tradition)

                          ขนบทางไซเบอรQเนติคมองการสื่อสารวEาเปUนระบบการประมวลข:อมูล (Information processing
               system) จึงมุEงศึกษาการประมวลข:อมูล ปฏิกิริยาตอบกลับ และการควบคุมของระบบการสื่อสาร Norbert Wiener
               นักวิทยาศาสตรQชาวอเมริกันเปUนผู:ริเริ่มใช:คำวEา Cybernetics หัวใจสำคัญของแนวคิดแบบไซเบอรQเนติค คือ ระบบ
                                                                  ั
               (System) ซึ่งเปUนชุดขององคQประกอบที่ตEางมีปฏิสัมพันธQระหวEางกน ระบบจะนำปiจจัยนำเข:า (Inputs) จากสิ่งแวดล:อม
                                                                                                   Q
                                    ื
                                               :
               มาประมวล (Process) หรอดำเนินการสรางผลผลิต (Output) องคQประกอบตEาง ๆ ของระบบมีความสัมพันธแบบพึ่งพา
               อาศัยกันหรือตEางสEงผลตEอกัน (Interdependence) และมีปฏิกิริยาตอบกลับ (Feedback) เปUนกลไกที่ชEวยให:ระบบ
               สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อทำให:ระบบคงอยูEและบรรลุเป©าหมาย

                       ไซเบอรQเนติคมองการสื่อสารในมุมมองที่กว:างและเปUนระบบ และเห็นวEาบุคคลไมEสามารถควบคุมผลลัพธQของ
                                                                                                          ั้
               การสื่อสาร ทั้งนี้เพราะความซับซ:อนของความหมาย การไมEสามารถทำนายปฏิกิริยาตอบกลับจากผู:สื่อสาร รวมทง
               ปiญหาตEาง ๆ กระบวนการสื่อสาร เชEน สิ่งรบกวน (Noise) นอกจากนี้ การสื่อสารไมEใชEแคEการประมวลข:อมูลสารสนเทศ
               เทEานั้น แตEยังเกี่ยวข:องกับความสามารถที่แตกตEางกันในการประมวลข:อมูลของผู:สื่อสารด:วย
   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22