Page 187 -
P. 187
ิ
ิ
โครงการหนังสออเล็กทรอนกส เฉลมพระเกียรตสมเด็จพระเทพรตนราชสดาฯ สยามบรมราชกุมาร ี
ื
์
ั
ุ
ิ
ิ
เรื่องเล่าพระไตรปิฎก
156
็
ดังนั้น นิพพานจึงเปนหลักในการตัดสินความดี ความชั่ว การท าความดีก็คือการด าเนินไปตามหนทาง
่
สูนิพพาน หนทางนั้นชื่อว่า มรรคมีองค์ 8... ซึ่งพระพุทธองค์ทรงแนะนาให้ก าจัดอกุศลมูลเพราะ
เปนบ่อเกิดของการกระท าที่ไม่ดี ท าให้มีความยึดมั่นถือมั่นในอัตตาตัวตน ในขณะเดียวกันก็ทรงก าชับ
็
ให้พัฒนากุศลมูลให้เกิดมีขึ้นในจิตใจ เพราะเมื่อกุศลมูลเกิดขึ้นความยึดมั่นในอัตตาตัวตนก็จะหายไป
เพราะมีอโมหเจตสิกท าให้รู้เห็นสิ่งต่าง ๆ ตามความเปนจริง”
็
และมีข้อความในสังยุตตนิกาย (สัง. สฬา.18/28/27) ดังทีพุทธองค์ได้ตรัสว่า
่
ุ
“ภิกษทั้งหลายจงละอกุศลเสียเถิด อกุศลเปนสิ่งที่อาจละได้ หากอกุศลเปนสิ่งที่ไม่อาจละได้แล้ว
็
็
ไซร้ เราคงไม่กล่าวอย่างนั้น...แต่เพราะอกุศลเปนสิ่งที่อาจละได้ เราจึงกล่าวอย่างนั้น... อนึ่ง หากอกุศลนี ้
็
์
คนละเสียแล้วจะพึงเปนไปเพื่อมิใช่ประโยชนเกือกูลเพื่อความทุกข์แล้วไซร้ เราคงไม่กล่าวว่า
็
้
ภิกษทั้งหลายจงละอกุศลเสียเถิด แต่เพราะอกุศลนีคนละได้แล้วย่อมเปนไปเพื่อประโยชนเกือกูล
์
็
้
ุ
้
เพื่อความสุข ฉะนั้น เราจึงกล่าวว่าภิกษทั้งหลายจงละอกุศลเสียเถิด ภิกษทั้งหลาย จงฝกอบรมกุศลเถิด
ุ
ุ
ึ
็
กุศลเปนสิ่งที่อาจฝกอบรมได้ หากกุศลเปนสิ่งที่ไม่อาจฝกอบรมได้แล้วไซร้ เราคงไม่กล่าวอย่างนั้น...
ึ
็
ึ
้
ึ
แต่เพราะกุศลเปนสิ่งที่อาจฝกอบรมได้ เราจึงกล่าวอย่างนั้น... กุศลนีคนฝกอบรมแล้วย่อมเปนไป
ึ
็
็
์
เพื่อประโยชนเกื้อกูลเพื่อความสุข...”
สรุปความว่า วิธีการตัดสินว่าอะไรคือความดี ความชั่ว ประการแรก คือ ให้ดูว่าการกระท านั้น
เกิดจากกุศลมูล หรืออกุศลมูล ถ้าเกิดจากกุศลมูลก็เปนกรรมดี ถ้าไม่ใช่ก็เปนกรรมชั่ว คนทีจะรู้ดีทีสุด
็
่
็
่
่
่
ว่าเปนกรรมทีมีสาเหตุมาจากอะไรก็คือผู้ท ากรรมเอง การดูทีเจตนาหรือทีมาของกรรมนีอาจเรียกได้ว่า
็
้
่
้
เปนการดูอดีตของการกระท า คือพิจารณาย้อนหลังไปดูว่ากรรมนีมีรากเหง้ามาจากอะไร
็
เกณฑ์ร่วม
่
่
่
็
เมือพิจารณาจากผลการกระท าหรือวินิจฉัยโดยดูทีผลของการกระท าอาจเรียกว่า เปนการทีดู
็
่
้
อนาคตของการกระท า ซึงไม่จ าเปนต้องรอถึงชาติหนา เพราะการให้ผลของกรรมนั้นมี
่
ความเปนระเบียบสม าเสมอ ผู้ท ากรรมย่อมประจักษ์ชัดด้วยตนเอง ในการพิจารณาให้ตั้งค าถามว่า
็
็
็
การกระท าหรือสภาวธรรมนั้นให้ผลเปนคุณหรือโทษ ถ้าเปนคุณ การกระท านั้นหรือสภาวธรรมนั้น
่
ก็เปนความดี ถ้าเปนโทษก็เปนความชั่ว ดังข้อความทีพระเจ้าปเสนทิโกศลตรัสสนทนากับพระอานนท์
็
็
็
ว่า