Page 65 -
P. 65
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
กนกพร นุ่มทอง
การตีความบทขยายนามยังมีประเด็นส าคัญอีกประเด็นคือ
การวิเคราะห์บทขยายนามที่เป็นกริยา บุพบทวลีหรืออนุประโยค ซึ่ง
มีประเด็นที่ท าให้สับสนได้มาก
โดยปกติเมื่อน ากริยามาขยายค านาม จะใส่ 的 ไว้ ผู้แปลจะ
ทราบได้ว่ากริยานั้นเป็นกริยาหรือเป็นบทขยายนาม 订的酒店
ทราบได้ว่า 订(จอง) เป็นบทขยายนาม 酒店(โรงแรม) เพราะมี 的
รวมแล้วแปลว่า โรงแรมที่จอง 采取的措施 ทราบได้ว่า 采取(เลือก
ไปใช้/น าไปปฏิบัติ) เป็นบทขยายนามของ 措施(มาตรการ) เพราะมี
的 รวมแล้วแปลว่า มาตรการที่เลือกใช้/น าไปปฏิบัติ ซึ่งถ้าไม่มี จะ
กลายเป็นกริยา+กรรมทันที เช่น 订酒店(จองโรงแรม)
采取措施(เลือกใช้มาตรการ)
แต่หากเป็นกริยาสองพยางค์ที่ท าหน้าหน้าที่เป็นนามได้ด้วย
ในภาษาจีนไม่จ าเป็นต้องใส่ 的 ผู้แปลมักสับสนว่าค านี้เป็นบทขยาย
นามหรือเป็นกริยา เช่น 研究题目 เป็นได้ทั้งกริยา+กรรม (วิจัย+
หัวข้อ) กับบทขยายนาม+นาม (ที่วิจัย+หัวข้อ) จะทราบได้ 研究 ท า
หน้าที่กริยาหรือบทขยายนามได้ด้วยการพิจารณาบริบท แต่ผู้แปลที่
มีประสบการณ์ไม่มากพออาจสับสนและมีแนวโน้ม “เห็นอะไรก่อน
แปลก่อน” ตีความบทขยายนามเป็นกริยาโดยละเลยการพิจารณาค า
อื่นๆ ประกอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ประโยคนั้นยาวและมี
ศัพท์เฉพาะ เช่น
58 บทที่ 4 การแปลบทขยายและส่วนเสริม