Page 137 -
P. 137
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
กนกพร นุ่มทอง
ลักษณะนี้เป็นการบอกว่าท าอย่างไรจึงจะดี อาจพิจารณาแปลว่า “...
ดีกว่า” ประโยคนี้แปลได้ว่า “ฉันว่าอย่าไปเลย (ดีกว่า) ฟ้ามืดแล้ว
อย่าว่าแต่ข้างนอกฝนยังตกอยู่เลย” “ฉันว่าอย่าไปเลย ค่ าแล้ว แถม
ข้างนอกยังฝนตกอยู่ด้วย”
ประโยคที่ 7 他不是去图书馆,就是在家里看书。
ประโยคนี้เป็นประโยคที่แสดงสภาพการณ์ที่ให้เลือกสิ่งใดสิ่ง
หนึ่ง มีค าเชื่อม 不是……就是…… ปรากฏในสองสิ่งที่ให้เลือก
ซึ่งจริงๆ แล้วในประโยคนี้แสดงว่าถ้าไม่ได้เป็นแบบหนึ่งก็เป็นอีกแบบ
หนึ่ง ไม่สามารถแปลตรงๆ เป็น “ไม่ใช่...ก็เป็น/คือ...” “เขาไม่ใช่ไป
ห้องสมุด ก็คืออาจหนังสืออยู่ที่บ้าน” อาจต้องเพิ่มค าเชื่อม “ถ้า” ไว้
หน้าประโยค ประโยคนี้ควรแปลเป็น “ถ้าเขาไม่ได้ไปห้องสมุด ก็อ่าน
หนังสืออยู่ (กับ) บ้าน”
จะเห็นได้ว่าการแปลค าเชื่อมในประโยคความรวม ต้องรู้จัก
ย้ายต าแหน่งค าเชื่อมและปรับค าเชื่อมให้เหมาะสม ตัดทอนค าเชื่อม
ที่ไม่จ าเป็นในภาษาไทยและเพิ่มค าเชื่อมมาเพื่อเน้นความสัมพันธ์ใน
ประโยค
การแปลประโยคความรวมที่ประกอบด้วยประโยคหลักกับประโยค
รอง
130 บทที่ 6 การแปลประโยคความรวม