Page 134 -
P. 134
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ทักษะการแปลภาษาจีนเป็นภาษาไทย
ติดกับค าว่า 边 ซึ่งมีความหมายว่า “ด้าน” โดยไม่ได้คิดว่าใน
ภาษาไทยมีค าเชื่อมที่ตรงกับค านี้คือ ...ไปพลาง ...ไปพลาง
นอกจากนี้ ผู้แปลที่ติดภาษาจีนยังวางค าเชื่อมไว้หน้าภาคแสดง
แทนที่จะย้ายมาวางไว้หลังภาคแสดงตามหลักภาษาไทย ในด้านการ
แปลค าศัพท์ มีประเด็นที่เป็นปัญหาอยู่ 3 จุด คือ “พวกเด็กๆ ”
“นิทาน” และ “วัยรุ่น” อันที่จริงเราไม่จ าเป็นต้องแปลค าว่า 们 ด้วย
ค าว่า “พวก...” เสมอไป หากค านั้นเป็นพหูพจน์อยู่แล้ว เช่น ค าว่า
我们 สามารถแปลว่า “เรา” ได้ โดยไม่จ าเป็นต้องแปลว่า “พวกเรา”
กรณีนี้ใช้ค าว่า “เด็กๆ ” แสดงให้เห็นอยู่แล้วว่ามีเด็กหลายคน
สามารถตัด “พวก” ทิ้ง ค าว่า 故事 มีความหมายได้ทั้งนิทานและ
เรื่องราว ในที่นี้เป็นเรื่องของตนเอง มิได้เป็นนิทาน ส่วนค าว่า 年轻
ไม่เท่ากับ “วัยรุ่น” แต่หมายถึงวัยที่ยังหนุ่มยังสาว ยังอายุน้อย ซึ่งมี
ช่วงเวลาที่กว้างกว่าช่วงวัยรุ่น นอกจากนี้ยังสามารถเติมค าว่า “ก็”
ในประโยคหลัง เพื่อเน้นความสัมพันธ์ และเติมค าว่า “ฟัง” ไว้เพื่อ
ระบุเป้าหมายของการเล่า ท าให้ประโยคไม่ห้วนจนเกินไปนัก
ประโยคนี้แปลได้เป็น “เขาพาเด็กๆ เดินเล่นไปพลางก็เล่าเรื่องสมัย
ตนเองยังหนุ่มให้พวกเขาฟัง (ไปพลาง)”
ประโยคที่ 2 地铁站那么远,要么坐车去,要么打的
去,走着去太累了。
ประโยคนี้เป็นประโยคที่แสดงสภาพการณ์ที่ให้เลือกสิ่งใดสิ่ง
หนึ่ง มีค าเชื่อม 要么 ปรากฏในสองสิ่งที่ให้เลือก ในภาษาไทยไม่
สามารถแปลด้วยค าเชื่อมเดียวกันได้ ต้องใช้ค าเชื่อมเป็นคู่ เช่น
บทที่ 6 การแปลประโยคความรวม 127