Page 211 -
P. 211
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
3. พืชแห้ง (Hay) การทำพืชแห้งเป็นวิธีการเก็บรักษาพืชอาหารสัตว์ไว้ในยามที่พืชสดขาด
แคลนอีกวิธีหนึ่ง โดยการลดปริมาณความชื้นของพืชให้อยู่ในระดับต่ำจนสามารถยับยั้งการ
ทำงานของเอ็นไซม์ในตัวพืชและของจุลินทรีย์ การทำพืชแห้งนี้จำเป็นต้องลดปริมาณความชื้น
ให้เหลือประมาณ 15-20% ดังนั้นการตัดพืชเมื่อแก่เต็มที่จะมีความชื้นเหลืออยู่น้อย ซึ่งทำให้
พืชแห้งเร็วและมีการสูญเสียน้ำหนักน้อย แต่มีข้อเสียคือ เมื่อพืชมีอายุมากขึ้นจะมีคุณค่าทาง
อาหารลดลง โดยทั่วไปคุณค่าทางอาหารของพืชแห้งจะต่ำกว่าพืชหมักและพืชสด อย่างไรก็ตาม
การทำพืชแห้งอย่างถูกวิธีและเลือกระยะการเจริญเติบโตของพืชที่เหมาะสม จะทำให้มีการ
สูญเสียคุณค่าทางอาหารน้อยและได้พืชแห้งที่มีคุณภาพดีได้เช่นกัน ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อคุณค่า
ทางอาหารของพืชแห้งได้แก่
• ปฏิกิริยาการเปลี่ยนแปลงทางเคมี ซึ่งเป็นผลจากการทำงานของเอ็นไซม์ในพืชหรือ
ปฏิกิริยาออกซิเดชั่น และการทำงานของจุลินทรีย์ที่ติดมา มีผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสาร-
ประกอบต่าง ๆ ของพืช การทำให้พืชแห้งเร็วขึ้นจะช่วยลดการสูญเสียธาตุอาหารให้น้อยลง
• ชนิดของพืชและระยะการเจริญเติบโต พืชแห้งที่ทำมาจากพืชตระกูลถั่วจะมีระดับ
โปรตีนและแร่ธาตุมากกว่าพืชแห้งที่ทำมาจากหญ้าหรือธัญพืช ดังนั้นในการทำพืชแห้งจึงมักใช้
หญ้าร่วมกับพืชตระกูลถั่ว ซึ่งมีคุณภาพดีกว่าการใช้หญ้าเพียงอย่างเดียว ระยะการเจริญเติบโต
ของพืชเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อคุณค่าทางอาหารของพืชแห้ง การใช้พืชที่มีอายุมากจะให้
ผลผลิตมากกว่าแต่คุณภาพของพืชแห้งต่ำกว่าพืชที่ตัดตอนอ่อน ๆ
• กระบวนการในการทำให้แห้ง กรรมวิธีในการทำพืชให้แห้งมีหลายวิธี อาทิ การ
ตากแดด การใช้ลมร้อนเป่าในที่ร่ม การอบ เป็นต้น การทำให้พืชแห้งเร็วที่สุดสามารถลดการ
สูญเสียสารอาหารตลอดจนลดการปนเปื้อนจากเชื้อจุลินทรีย์ที่ไม่ต้องการได้มากที่สุด
อาหารข้น (concentrate)
เกิดจากการนำเอาวัตถุดิบอาหารสัตว์กลุ่มต่าง ๆ มาประกอบกันในสัดส่วนที่ทำให้ได้สารอาหาร
ตามความต้องการของสัตว์ ซึ่งวัตถุดิบที่นำมาประกอบเป็นอาหารข้นสำหรับสัตว์กระเพาะรวม
หรืออาหารผสมสำหรับสัตว์กระเพาะเดี่ยว สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ
วัตถุดิบอาหารสัตว์ 208