Page 139 -
P. 139
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
system และเป็นองค์ประกอบของสารฟอสโฟลิปิดคือ เลซิติน (lecithin) กับสฟริงโกไมอีลิน
(sphingomyelin) และควบคุมความเข้มข้นของฟอสโฟลิปิดในเลือดและตับ นอกจากนี้โคลีน
ยังเป็นแหล่งให้หมู่เมทธิล (methyl group) สัตว์ที่ขาดโคลีนจะแสดงอาการไขมันพอกที่ตับ
มากหรือเรียกว่า“fatty liver haemorrhagic syndrome” และอาการ perosis หรือ
slipped tendon ในลูกไก่โดยเส้นเอ็นที่ขาจะหย่อนและหลุดออกจากร่องเอ็นทำให้ข้อขา
บวม และบิด สัตว์จะเดินไม่ได้
• ไวตามินบี12 เป็นไวตามินที่พบเฉพาะในเนื้อเยื่อจากสัตว์เท่านั้น มีชื่ออีกอย่างหนึ่งว่าไซ
ยาโนโคบาลามีน (cyanocobalamine) ทำหน้าที่เป็นโคเอ็นไซม์ในเมแทบอลิซึมต่าง ๆ
เช่นการเปลี่ยนแปลงของเมทธิวมาโลนิล-โคเอ (methylmalonyl CoA) ไปเป็นซัคซินิล-โคเอ
(succinyl CoA) ในเมแทบอลิซึมของกรดโปรปิโอนิค นอกจากนี้ยังมีบทบาทในการสัง-
เคราะห์ดีเอ็นเอ สัตว์มีความต้องการไวตามินบี12 แตกต่างกันขึ้นอยู่กับปริมาณของกรดแพน
โทธินิค ระดับโปรตีน โคลีน กรดอะมิโนเมทไธโอนีน และกรดโฟลิคในอาหาร หากในอาหารมี
ไวตามินเหล่านี้สูงขึ้น จำเป็นต้องเสริมไวตามินบี12 ให้สูงขึ้นด้วย เพราะการทำงานของไวตา-
มินเหล่านี้จำเป็นต้องอาศัยไวตามินบี12 ทั้งสิ้น สัตว์ที่ได้รับไวตามินบี12 ไม่เพียงพอจะแสดง
อาการเจริญเติบโตช้าและมีการตายสูง ในไก่พบอัตราการฟักออกเป็นตัวลดลงและลูกไก่ที่ฟัก
ออกมีอาการผิดปกติมากขึ้น สำหรับในสุกรจะเกิดโรคโลหิตจาง โรคผิวหนัง และเจริญเติบโต
ช้า โดยปกติสัตว์กระเพาะรวมได้รับไวตามินบี12 จากจุลินทรีย์ในกระเพาะรูเมนอย่างเพียงพอ
แต่สัตว์จำเป็นต้องได้รับแร่ธาตุโคบอลต์จากอาหารอย่างเพียงพอด้วย เนื่องจากโคบอลต์เป็น
องค์ประกอบในโครงสร้างของไวตามินบี12 ดังแสดงในรูปที่ 8-10
• ไวตามิน ซี (vitamin C) หรือกรดแอสคอบิค (L-ascorbic acid) เป็นไวตามินที่มีคุณ-
สมบัติเป็นสารรีดิวซิงค์ (reducing agent) ที่แรง มีบทบาทสำคัญในปฏิกิริยาออกซิเดชัน-
รีดักชันต่าง ๆ และมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ โดยทั่วไปสัตว์สามารถสังเคราะห์ไว
ตามินซีได้จากน้ำตาลกลูโคสอย่างเพียงพอ ยกเว้นในภาวะที่สัตว์เกิดความเครียด เช่น การ
เปลี่ยนอาหาร การเคลื่อนย้ายสัตว์ สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วหรือสภาพการ
ไวตามิน 136