Page 44 -
P. 44
โครงการรวบรวมและจัดทําวารสารอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
38 วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์
เวลาใดๆ ในประวัติศาสตร์ ความสูญเสียด้านสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ ได้รับการศึกษาและพิจารณา
อย่างจริงจังเมื่อสมาคมนิเวศวิทยาแห่งสหราชอาณาจักร และสมาคมนิเวศวิทยาของสหรัฐอเมริกา ได้
ทำการสำรวจ ศึกษาเรียงลำดับความสำคัญของแนวคิดทางนิเวศวิทยาทั้งในรูปของทฤษฎี การวิจัย โดย
เฉพาะสมาคมนิเวศวิทยาแห่งสหรัฐอเมริกา ทำการศึกษาวิเคราะห์วิจัยทางนิเวศวิทยาเพื่อสร้างความเข้าใจ
พื้นฐานความสัมพันธ์ระหว่างชีวิตกับสิ่งแวดล้อม และมีศักยภาพที่จะเป็นกุญแจสำคัญต่อความยั่งยืน
ของสังคมมนุษย์ โดยเรียกว่า ความริเริ่มชีวาลัยที่ยั่งยืน (The Sustainable Biosphere Initiative)
จนกระทั่งได้ข้อเสนอแนะไว้ใน ค.ศ. 1991 (Ecological Society of America) และได้สะท้อนถึงความ
จำเป็นเร่งด่วนที่ควรตระหนัก 3 ประการได้แก่ 1) ด้านการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมโลก 2) ด้านความ
หลากหลายทางชีวภาพ 3) ด้านระบบนิเวศที่ยั่งยืน
นอกจากนี้ จากการสำรวจล่าสุดขององค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ
(Food and Agriculture Organization, FAO) ด้านสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับป่าไม้ที่เรียกว่า การประเมิน
แหล่งป่าไม้ของโลก (The Global Forest Resources Assessment) สำหรับปี 2010 ที่เรียกว่า FRA
2010 ซึ่งเก็บข้อมูลจาก 233 ประเทศทั่วโลก พบว่า ป่าไม้ทั่วโลกปัจจุบันมีเพียง 31% มี 10 ประเทศใน
โลกที่ไม่มีป่าไม้เลย และมีอีก 54 ประเทศในโลกมีป่าเหลือเพียง 10% เท่านั้น ป่าไม้ส่วนใหญ่ถูกบุกรุก
เพื่อการเกษตรกรรม และจากการสำรวจพบว่าระหว่างปี 1960 ถึง 1980 ป่าไม้ในทวีปเอเชียถูกทำลาย
เป็นปริมาณถึง 1 ใน 3 และเป็นอัตราที่สูงที่สุดในโลก และเมื่อเทียบระหว่างประเทศในเอเชียด้วยกัน
พบว่า ประเทศไทยมีการสูญเสียป่าไม้มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ในเอเชีย (4%) รองจากบังคลาเทศและ
ปากีสถาน อย่างไรก็ตาม นับว่าประเทศไทยยังมีการพัฒนาไปในทางที่ดี นั่นคือ ประเทศไทยเป็นประเทศ
ที่มีการปกป้องป่า (Protected Area, PA) เช่น นโยบายปิดป่า การกำหนดให้มีอุทยานแห่งชาติ เป็นต้น
และมี PA มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งในประเทศในเอเชีย (13.8%)
สำหรับมิติทางปรัชญาแนวคิดที่ทำให้ระบบนิเวศวิทยาเกือบล่มสลายไปนั้นเป็นเพราะ
อิทธิพลแนวคิดด้านวิทยาศาสตร์แบบลดทอน (reductionism) ที่ทำให้มนุษย์เข้าใจผิดว่ามนุษย์เป็นสิ่งมี
ชีวิตที่ประเสริฐ มนุษย์เท่านั้นมีคุณค่าทางจริยธรรมตามทฤษฎีที่ยึดมนุษย์เป็นจุดศูนย์กลาง
(anthropocentrism) สิ่งแวดล้อมไม่มีคุณค่าในตัวเอง มนุษย์จึงไม่มีท่าทีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมต่าง
จากพระพุทธศาสนาที่ส่งเสริมสนับสนุนให้มนุษย์เป็นมิตรกับธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และการที่มนุษย์
อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมก็เพื่อประโยชน์แก่มนุษย์เองหาใช่ประโยชน์แก่สิ่งแวดล้อมไม่ (เจริญ ชัยแก้ว, 2541:
บทคัดย่อ; เพ็ญพิศ คชสิทธิไพศาล, 2554: 190) แนวคิดแบบลดทอนนี้เป็นผลสืบเนื่องมาตั้งแต่ศตวรรษ
ที่ 17 โดยนักปรัชญาฝรั่งเศสชื่อเรอเน เดการ์ต ที่ถือเหตุผลนิยมเป็นแกนหลัก เมื่อแนวคิดดังกล่าวมา
ประสานกับนักวิทยาศาสตร์อังกฤษชื่อนิวตัน กลับยิ่งทำให้แนวคิดดังกล่าวมีส่วนสำคัญในการพัฒนา
สังคมตะวันตก และเกิดความก้าวหน้าทางวิชาการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แม้ว่าจะมีผลดีและเป็น
ประโยชน์ในแวดวงวิทยาศาสตร์แต่แนวคิดดังกล่าวก็สามารถครอบงำ และทำให้โลกรับความคิดแบบแยก
ส่วน มองโลกแบบกลไก ส่งผลเสียหายอย่างมากต่อชีวิตและสิ่งล้อม เพราะได้ลดทอนคุณค่าชีวิตอื่นๆ
ที่มีความซับซ้อนมากกว่าที่จะมองโลกแบบแยกส่วนโดยอ้างคุณค่าจาก "เหตุผล” เท่านั้น (เสรี พงศ์พิศ,
2555) เมื่อเกิดการแยกความคิดเชิงระบบออก ยิ่งซ้ำเติมปัญหายิ่งขึ้น ปรัชญาแนวคิดเรื่ององค์รวมจึง