Page 85 -
P. 85
โครงการรวบรวมและจัดทําเอกสารวารสารอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
66 Humanities Journal Vol.24 No.2 (July-December 2017)
เนื้อหาจารึกปราสาทพระขรรค์ที่โดดเด่นอีกประการหนึ่ง คือ การแสดงให้
เห็นพระราชกรณียกิจของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ทางด้านศาสนา โดยทรงส่งเสริมศาสนา
พราหมณ์ควบคู่ไปกับศาสนาพุทธ ดังจะเห็นได้ว่าเมื่อมีการสถาปนาเมืองชัยศรีนั้น
จารึกปราสาทพระขรรค์บันทึกไว้ว่าเมืองแห่งนี้มีความยอดเยี่ยมกว่าเมืองประยาคซึ่ง
เป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดูในอินเดีย เนื่องจากเมืองประยาคมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพียง
2 อย่าง ได้แก่สายน ้าคงคาและยมุนา แต่เมืองชัยศรีมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อันยอดเยี่ยมถึง 3
อย่าง ได้แก่ พระพุทธเจ้า พระศิวะ และพระวิษณุ ดังที่ว่า
เมืองประยาคท าให้ชาวโลก ไปถึงความบริสุทธิ์ได้ด้วย
การสักการะกราบไหว้ เนื่องจากว่าเมืองประยาคเป็นที่รวมของ
สิ่งศักดิ์สิทธิ์สองประการ (คงคาและยมุนา) แต่เมืองชัยศรีมี
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เยี่ยมยอดถึงสามประการ คือ พระพุทธเจ้า พระศิวะ
และพระวิษณุ ควรจะได้รับการพรรณนาว่าอย่างไรจึงจะเหมาะ
(จิรพัฒน์ ประพันธ์วิทยา, 2531, น. 85)
รายละเอียดดังกล่าวของเนื้อหาจารึกปราสาทพระขรรค์แตกต่างจากเนื้อหา
จารึกปราสาทตาพรหมตรงที่ผู้แต่งจารึกปราสาทตาพรหมจะยกย่องศาสนาพุทธให้
เหนือกว่าศาสนาพราหมณ์ และไม่มีรายละเอียดส่วนใดที่ผู้แต่งน าคติความเชื่อทาง
ศาสนาฮินดูมาเทียบเคียงเสมอกับศาสนาพุทธได้เลย
7.2 การสร้างศาสนสถาน
จารึกปราสาทตาพรหมและจารึกปราสาทพระขรรค์บันทึกรายละเอียด
การสร้างปราสาทตาพรหมและปราสาทพระขรรค์ไว้แตกต่างกัน เนื้อหาจารึกปราสาท
ตาพรหมโศลกที่ 35-36 ระบุถึงเมืองที่มีชื่อว่าราชวิภาระ (ราชวิภารนามฺนี) หรือปราสาท
ตาพรหม โดยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ทรงมีจุดมุ่งหมายให้พื้นที่แห่งนี้เป็นสถานที่ดูแล
พระมารดาของพระพุทธเจ้า รายละเอียดจะเน้นให้เห็นถึงความสวยงามของเมืองราชวิภาระ
ที่สร้างขึ้น ดังที่ยกย่องว่า “เป็นเมืองที่มีร่างกายประดับตกแต่งด้วยรัตนะและทองค า
ที่สว่างไสวโชติช่วง” (นิพัทธ์ แย้มเดช, 2558, น. 135) เมื่อสร้างเมืองราชวิภาระ พระเจ้า