Page 122 -
P. 122

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
          คุณภาพดินเพื่อการเกษตร





          ประโยชน์ (exploitation phase) และวัฏภ�คอนุรักษ์ (conservation phase) แล้ว ระบบนิเวศอ�จเข้�
          สู่ช่วงทำ�ล�ยอย่�งสร้�งสรรค์ (creative destruction) และจัดองค์ประกอบเข้�กันใหม่ (reorganization)

          ด้วย  โดยเฉพ�ะอย่�งยิ่งในระบบนิเวศที่พัฒน�ม�น�น  (mature  ecosystem)  ซึ่งมีคว�มเชื่องโยงและ
          อันตรกิริย�ระหว่�งองค์ประกอบที่แข็งแรง   ต่อม�อ�จจะมีก�รเปลี่ยนแปลงของระบบอย่�งทันทีทันใด
          ก็ได้ สำ�หรับก�รเปลี่ยนแปลงทันทีทันใดนั้น (ก�รปลดปล่อยส�รต่�งๆ อันมีคุณค่�ในช่วงก�รทำ�ล�ยอย่�ง

          สร้�งสรรค์)  อ�จจุดชนวนให้มีก�รจัดองค์ประกอบเข้�กันใหม่และเกิดระบบนิเวศใหม่ขึ้นด้วย  ต่อจ�กนั้น
          ก็มีก�รสะสมอินทรียวัตถุและธ�ตุอ�ห�ร  ซึ่งมีม�กพอและพร้อมที่นำ�ไปใช้ประโยชน์อีกครั้งหนึ่ง  ดังนั้น

          ระบบซึ่งมีคว�มเชื่อมโยงกันหล�ยส่วนและมีอันตรกิริย�เช่นนี้ จะเป็นส่วนที่เปลี่ยนแปลงต่อไปได้ง่�ย และ
          มีคว�มเป็นไปได้สูงที่ระบบดังกล่�วจะเปลี่ยนแปลงไปสู่ลักษณะที่แปลกใหม่ แทนที่จะหันกลับไปเป็นแบบ
          เดิมเมื่อเริ่มต้น  กล่�วได้ว่�พลวัตของธ�ตุอ�ห�รส่งผลกระทบต่อก�รเปลี่ยนแปลงอย่�งกะทันหัน  ทั้งนี้

          เนื่องจ�กก�รพังทล�ยของระบบนิเวศนั้นเกิดขึ้นเมื่อก�รปลดปล่อยธ�ตุอ�ห�ร (nutrient mobilization)
          ไม่สมดุลกับก�รกักเก็บธ�ตุอ�ห�ร (nutrient retention) ศักยภ�พที่เกิดก�รเปลี่ยนแปลงอย่�งกะทันหัน

          ได้นี้  แสดงว่�ระบบนิเวศเกษตรมีคว�มส�ม�รถในก�รฟื้นฟูเพื่อเปลี่ยนแปลงเข้�สู่สภ�พใหม่  ซึ่งมีคว�ม
          สำ�คัญเช่นเดียวกัน
                   ในขณะที่ส�รสนเทศแบบเครือข่�ย  (information  networks)  และข้อมูลป้อนกลับที่ทำ�ง�น

          แบบวงกลม (feedback loops) ของระบบนิเวศ ช่วยให้เกิดก�รจัดโครงสร้�งได้เอง (self organization)
          และมีพลวัตของสมดุล (dynamic equilibrium) แต่จ�กก�รศึกษ�แบบย่อส่วน (reductionist studies)

          พบว่�สิ่งเหล่�นี้ก็มีผลยับยั้งก�รรับบ�งอย่�งเข้�ม�ภ�ยในแต่ละกระบวนก�ร   แม้ว่�ก�รศึกษ�ในแบบ
          จำ�ลองที่ทำ�ให้ระบบนิเวศเกษตรมีลักษณะง่�ย  จะให้ข้อมูลด้�นคว�มยั่งยืนของก�รผลิตอ�ห�ร  แต่ก�ร
          ศึกษ�แต่ละกระบวนก�รแบบเดี่ยวนั้น  คงให้ข้อมูลไม่เพียงพอที่จะใช้สรุปเรื่องร�วของทั้งระบบ  ดังนั้นจึง

          เป็นก�รย�กที่จะลงคว�มเห็นอย่�งถูกต้องเกี่ยวกับระบบที่มีคว�มซับซ้อน   ส่วนผลป้อนกลับหรือคว�ม
          เชื่อมโยงของส�รสนเทศในระบบที่ซับซ้อน เป็นระบบไซเบอร์เนติกซึ่งให้ผลตอบสนองแบบไม่เป็นเส้นตรง

          เนื่องจ�กก�รตอบสนองมีผลต่อก�รเปลี่ยนแปลงของตัวกระตุ้น   ก�รตอบสนองแบบไม่เป็นเส้นตรงใน
          ระบบ  ซึ่งเป็นไปต�มกฎเกณฑ์ที่มีผู้ว�งไว้นี้  ชี้ว่�สิ่งที่จะเกิดขึ้นเป็นปร�กฏก�รณ์แบบสุ่มและมีคว�ม
          ยุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบ  ซึ่งจะทำ�ให้พฤติกรรมของระบบมีคว�มอ่อนไหวอย่�งยิ่ง  และย�กที่จะค�ดหม�ย

          ทิศท�งก�รเปลี่ยนแปลงของระบบดังกล่�ว ยกตัวอย่�งเช่น เมื่อพลวัตของบรรย�ก�ศอยู่ในสภ�พยุ่งเหยิง
          ไม่เป็นระเบียบ  ย่อมจะค�ดหม�ยทิศท�งก�รเปลี่ยนแปลงได้ย�กม�ก  อย่�งไรก็ต�ม  แม้ว่�สภ�พอัน

          ซับซ้อนยุ่งเหยิงจะเกิดขึ้นในระบบนิเวศส่วนม�ก  แต่ระบบนิเวศธรรมช�ติโดยทั่วไปก็มิได้มีสภ�พซับซ้อน
          ยุ่งเหยิงเช่นนั้นเสมอ และก�รเข้�แทรกแซงของมนุษย์ต่อระบบนิเวศ โดยเฉพ�ะอย่�งยิ่งระบบนิเวศเกษตร
          อ�จทำ�ให้ระบบดังกล่�วมีสภ�พยุ่งเหยิงได้






      118        สมาคมดินและปุ๋ยแห่งประเทศไทย
   117   118   119   120   121   122   123   124   125   126   127