Page 165 -
P. 165

156
             พันธุศำสตร์ประชำกรกับกำรปรับปรุงพันธุ์

     156
           พันธุศำสตร์ประชำกรกับกำรปรับปรุงพันธุ์
    ไปจำกค่ำเฉลี่ยของประชำกร ซึ่งถ้ำพิจำรณำถึงเซลล์สืบพันธุ์ A และ a ก็จะได้อิทธิพลโดยเฉลี่ยของยีนจ ำนวน 2
    ค่ำ ให้สัญลักษณ์เป็น   และ  
                              2
                      1
  ค่ำ ให้สัญลักษณ์เป็น   และ  
                                             =  pa+qd- [a(p-q) +2pqd]
     ซึ่งจะได้ค่ำอิทธิโดยเฉลี่ยของยีน A ( )
                    1
                           2
                                  1
   ซึ่งจะได้ค่ำอิทธิโดยเฉลี่ยของยีน A ( )
                                           =  pa+qd- [a(p-q) +2pqd]

                                             =  q[a+d(q-p)]
                                1
                                           =  q[a+d(q-p)]

     ซึ่งจะได้ค่ำอิทธิโดยเฉลี่ยของยีน a ( )
                                             =  -qa+pd- [a(p-q) +2pqd]
                                  2
                                           =  -qa+pd- [a(p-q) +2pqd]
   ซึ่งจะได้ค่ำอิทธิโดยเฉลี่ยของยีน a ( )

                                             =  -p[a+d(q-p)]
                                2

                                           =  -p[a+d(q-p)]
          4.  อิทธิพลโดยเฉลี่ยของยีนตัวหนึ่งถูกแทนที่ด้วยยีนอีกตัวหนึ่ง  (average  effect of  gene
             substitution)
        4.  อิทธิพลโดยเฉลี่ยของยีนตัวหนึ่งถูกแทนที่ด้วยยีนอีกตัวหนึ่ง  (average  effect of  gene
             เมื่อพิจำรณำในประชำกรที่มีกำรแทนที่ยีนตัวหนึ่งด้วยยีนอีกตัวหนึ่ง  ซึ่งส่งผลให้ค่ำ  genotypic
           substitution)
    value  เปลี่ยนแปลงไป  ซึ่งค่ำที่เปลี่ยนแปลงไปจะเป็นผลต่ำงของค่ำอิทธิพลโดยเฉลี่ยของยีน  ()  มีค่ำเท่ำกับ
           เมื่อพิจำรณำในประชำกรที่มีกำรแทนที่ยีนตัวหนึ่งด้วยยีนอีกตัวหนึ่ง  ซึ่งส่งผลให้ค่ำ  genotypic
                                 52
      -    = a+d(q-p) เพรำะฉะนั้นจำกข้อที่ 3 จะได้
                                       พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์
     1 เปลี่ยนแปลงไป  ซึ่งค่ำที่เปลี่ยนแปลงไปจะเป็นผลต่ำงของค่ำอิทธิพลโดยเฉลี่ยของยีน  ()  มีค่ำเท่ำกับ
  value
          2
                     โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    52   พันธุศาสตร์ประชากรกับการปรับปรุงพันธุ์    ไปจำกค่ำเฉลี่ยของประชำกร ซึ่งถ้ำพิจำรณำถึงเซลล์สืบพันธุ์ A และ a ก็จะได้อิทธิพลโดยเฉลี่ยของยีนจ ำนวน 2

    -    = a+d(q-p) เพรำะฉะนั้นจำกข้อที่ 3 จะได้
           
                                                        =
    เมื่อมีการผสมพันธุ์กันอย่างสุ่มในประชากร จะมีความถี่ขอ  =      เมื่อมีการผสมพันธุ์กันอย่างสุ่มในประชากร จะมีความถี่ของจีโนไทป์ที่เกิดขึ้นดังนี้
             1งจีโนไทป์ที่เกิดขึ้นดังนี้
                                       q[a+d(q-p)]
                                                                         q
        2
   1
             2 158
                  พันธุศาสตร์ประชากร  q[a+d(q-p)]    =
                    =
               พ่อ   1     สำาหรับการปรับปรุงพันธุ์  -p[a+d(q-p)]   =   q
                      =
                                             พ่อ
                                                                         -p
     .                                .                                .                                .                         
                                                      =
 แม่               =          แม่   -p[a+d(q-p)]       .                                .                                .                                .                         

                  เมื่อพิจารณาถึงความแปรปรวนทางพันธุกรรมที่ประกอบในความแปรปรวนของจีโนไทป์ที่
           2
    จำกข้อมูล p = 0.9, q = 0.1, a = 8 และ d =4 ท ำกำรแทนที่และค ำนวนหำค่ำ    -p
     .                            0.1678AABB   0.0944AABb   0.0944AaBB   0.0531AaBb   0.1678AABB   0.0944AABb   0.0944AaBB   0.0531AaBb
                                     .                         
              0.0531AaBb
     .                            0.0944AABb   ͲǤͲͷ͵ͳAAbb  เกี่ยวข้องดังนี้ V = V + V + V + V ซึ่ง V  ความแปรปรวนเนื่องจากอิทธิพลของยีนแบบบวกสะสม  0.0299Aabb
                              0.0299Aabb
                        P a = 8 และ d =4 ท ำกำรแทนที่และค ำนวนหำค่ำ 
  จำกข้อมูล p = 0.9, q = 0.1,
                                                                    ͲǤͲͷ͵ͳAAbb
                                                  0.0944AABb
                                                                                    0.0531AaBb
                                     .                         
                                           E
                                       I
                             A
                                  D
                                                 A
                       =
                               0.1[8+4(0.1-0.9)]
                                                  =  0.48
                                                                         q
              0.0531aaBB
     .                            0.0944AaBB   0.0531AaBb  (additive gene effect) V  ความแปรปรวนเนื่องจากอิทธิพลของยีนแบบข่ม (dominance gene effect)   0.0299aaBb
                              0.0299aaBb
                                                                                    0.0531aaBB
                                     .                         
                                                  0.0944AaBB
                                                                    0.0531AaBb
             1
     .                            0.0531AaBb   0.0299Aabb   0.0299aaBb   0.0168aabb
                                 D
                                                  0.0531AaBb
                                     .                         
                I     =       -0.9[8+4(0.1-0.9)]   =   -4.32          q
           และ V ความแปรปรวนเนื่องจากอิทธิพลของยีนแบบปฏิกิริยาร่วมระหว่างยีนต่างต�าแหน่ง (epistasis
                     =      0.1[8+4(0.1-0.9)]   =  0.48             0.0299Aabb      0.0299aaBb     0.0168aabb
           

                                                                         -p
           1
             2
           gene effect) จะเห็นได้ว่า จากการค�านวณก่อนหน้าของค่าพันธุกรรมจะมีทั้งหมด 3 จีโนไทป์ เมื่อต้องการ
 0.1678AABB 0.1887 AABb 0.0531AAbb                                   0.1678AABB 0.1887 AABb 0.0531AAbb
                                                     -4.32
                            -0.9[8+4(0.1-0.9)]
 ความถี่ของจีโนไทป์ในรุ่นลูก   =   [0.1887AaBB 2   มีค่ำเท่ำกับ    -    = 0.48 - (-4.32) = 4.8   =   [0.1887AaBB  0.2123AaBb  0.0597Aabb]
                                                                       -p
                                                =
                             0.0597Aabb]
                     =
                                       ความถี่ของจีโนไทป์ในรุ่นลูก
            0.2123AaBb
                                 2
 0.0531aaBB หาค่า V  ความแปรปรวนเนื่องจากอิทธิพลของยีนแบบบวกสะสม (additive gene effect) V  ความ   0.0168aabb
                            1 0.0168aabb
               0.0597 aaBb
                  A
                                                                                         D
                                                                      0.0531aaBB
                                                                                    0.0597 aaBb
          5.  ค่ำพันธุกรรม (breeding value)
           แปรปรวนเนื่องจากอิทธิพลของยีนแบบข่ม (dominance gene effect) จะอาศัยการหาความแปรปรวน

            มีค่ำเท่ำกับ    -    = 0.48 - (-4.32) = 4.8

                               2
 การทดสอบประชากรที่อยู่ในสภาวะสมดุล   1  การทดสอบประชากรที่อยู่ในสภาวะสมดุล
           รวมของทั้ง 3 genotypes โดยอาศัยความถี่ของแต่ละจีโนไทป์หรือแต่ละค่ามาค�านวณจากสูตร
             ค่ำพันธุกรรมเป็นกำรน ำเอำค่ำอิทธิพลโดยเฉลี่ยของยีนมำค ำนวณ  ซึ่งจะเป็นกำรค ำนวณทำงอ้อม
        5.  ค่ำพันธุกรรม (breeding value)
    จำกประชำกรรุ่นลูกอีกที  ไม่ได้วัดจำกพ่อแม่โดยตรง ดังนั้น เมื่อพิจำรณำ
    นิยมใช้การทดสอบค่าด้วยวิธีไคสแควร์ (Chi-square) จากสูตร  = ∑ (x-x) [ 2 (O i −E i ) 2 ]    n  2   (O i −E i ) 2 ]
                        n
                 2

           ค่ำพันธุกรรมเป็นกำรน ำเอำค่ำอิทธิพลโดยเฉลี่ยของยีนมำค ำนวณ  ซึ่งจะเป็นกำรค ำนวณทำงอ้อม 2
                                     นิยมใช้การทดสอบค่าด้วยวิธีไคสแควร์ (Chi-square) จากสูตร  = ∑
           Variance =          = ถ้า x ที่ได้มามีการลบด้วยค่าเฉลี่ยของประชากรไปแล้วสามารถที่จะใช้สูตร    fx [
                        i=1
                        n
                                                                                             i=1
             -  จำกจีโนไทป์ที่เป็น AA พบว่ำ เกิดจำกอิทธิพลโดยเฉลี่ยของยีน A รวมกับอิทธิพลโดยเฉลี่ยของ
                               E i
  จำกประชำกรรุ่นลูกอีกที  ไม่ได้วัดจำกพ่อแม่โดยตรง ดังนั้น เมื่อพิจำรณำ                             E i
                                 V
 ก าหนดให้        ซึ่งจะได้    ก าหนดให้    =    2pq[a + d(q - p)] 2
                 ยีน A จึงมีค่ำเท่ำกับ 2  หรือ 2q
           -  จำกจีโนไทป์ที่เป็น AA พบว่ำ เกิดจำกอิทธิพลโดยเฉลี่ยของยีน A รวมกับอิทธิพลโดยเฉลี่ยของ
                                  A
                                    1
                                                     2

                                 V

                                               (2pqd)
     =  ค่าไคสแควร์        -  จำกจีโนไทป์ที่เป็น Aa พบว่ำ เกิดจำกอิทธิพลโดยเฉลี่ยของยีน A รวมกับอิทธิพลโดยเฉลี่ยของ
 2
               ยีน A จึงมีค่ำเท่ำกับ 2
                                  D  หรือ 2q =  ค่าไคสแควร์
                                        
                                        =   2
                                  1
 i =  ค่าที่ได้จากการทดลองของลักษณะที่ i
 O            -  จำกจีโนไทป์ที่เป็น Aa พบว่ำ เกิดจำกอิทธิพลโดยเฉลี่ยของยีน A รวมกับอิทธิพลโดยเฉลี่ยของ
                                 V
                                               2pq    + (2pqd)

                                                              2
                                                     2

                            ยีน a จึงมีค่ำเท่ำกับ   +   หรือ (q-p) 
                                        O
                                        =   i =  ค่าที่ได้จากการทดลองของลักษณะที่ i
                                        2
                                  G1
 i =  ค่าที่คาดหมายของลักษณะที่ i
 E         จากข้อมูล p = 0.9, q = 0.1, a = 8, d = 4,     = 4.8
                                          i =  ค่าที่คาดหมายของลักษณะที่ i
                                         E
               ยีน a จึงมีค่ำเท่ำกับ   +   หรือ (q-p) 
 n   =  จ านวนลักษณะที่ท าการทดสอบ   1  2  n   =  จ านวนลักษณะที่ท าการทดสอบ
                                  V = 4.1472 V = 0.5184 V = 4.6656
           ได้
    และเมื่อท าการค านวณไคสแควร์แล้วเปรียบเทียบกับตารางไคสแควร์ พบว่า ถ้าประชากรมีค่าไคส  G
                                A
                                            D

                                     และเมื่อท าการค านวณไคสแควร์แล้วเปรียบเทียบกับตารางไคสแควร์ พบว่า ถ้าประชากรมีค่าไคส
                  ส่วนความแปรปรวนที่เกิดจากสภาพแวดล้อมนั้นจะแบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ อิทธิพล

 แควร์ที่น้อยกว่าค่าไคสแควร์ที่เปิดจากตารางแปลว่า ประชากรจะอยู่ในสมดุล   แควร์ที่น้อยกว่าค่าไคสแควร์ที่เปิดจากตารางแปลว่า ประชากรจะอยู่ในสมดุล
           ของสภาพแวดล้อมถาวรเรียกว่า permanent environment เป็นลักษณะที่เกิดขึ้นแบบไม่สามารถ
    จากตัวอย่างในประชากรที่มียีนควบคุม 1 ยีน ประกอบด้วยลักษณะที่ปรากฏดอกสีแดง (AA) 20 ต้น

                                     จากตัวอย่างในประชากรที่มียีนควบคุม 1 ยีน ประกอบด้วยลักษณะที่ปรากฏดอกสีแดง (AA) 20 ต้น
           มีการเปลี่ยนแปลงได้ เช่น การศึกษาปริมาณน�้านมจากวัวบางตัวที่มีบางหัวนมบอดก็จะให้ปริมาณ
 ดอกสีชมพู (Aa) 70 ต้น และดอกสีขาว (aa) 110 ต้น ท าการตรวจสอบความถี่ของจีโนไทป์ว่าเป็นไปตาม
                              ดอกสีชมพู (Aa) 70 ต้น และดอกสีขาว (aa) 110 ต้น ท าการตรวจสอบความถี่ของจีโนไทป์ว่าเป็นไปตาม
           น�้านมน้อยกว่าวัวที่มีหัวนมปกติ เป็นต้น อีกแบบคือ สภาพแวดล้อมชั่วคราว (temporary environment)
 ความถี่ของกฎฮาร์ดี-ไวน์เบิร์กหรือไม่   เช่น ความสมบูรณ์ของดินในการปลูกทดสอบ ซึ่งบางปีที่ปลูกทดสอบอาจยังไม่มีการปรับปรุงดิน แต่ในปี
                              ความถี่ของกฎฮาร์ดี-ไวน์เบิร์กหรือไม่
           ถัดไปได้มีการปรับปรุงดินก่อนการปลูกทดสอบ เป็นต้น
    ก าหนดให้ p คือ ความถี่ของยีน A และ q คือความถี่ของยีน a      ก าหนดให้ p คือ ความถี่ของยีน A และ q คือความถี่ของยีน a
 1             110+ (70)                            1                                     1
                    1
 20+ (70)
  ∴ ความถี่ของยีน A =   2   = 0.275 และ ความถี่ของยีน a =   2   = 0.725   20+ (70)  = 0.275 และ ความถี่ของยีน a =  110+ (70)  = 0.725
                               ∴ ความถี่ของยีน A =
                                                                                          2
                                                    2
 200               200
                                                   200                                  200
    จากการค านวณจ านวนต้นที่มีจีโนไทป์ตามกฎฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก ซึ่งค านวณความถี่ของยีนได้ดังนี้
                                     จากการค านวณจ านวนต้นที่มีจีโนไทป์ตามกฎฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก ซึ่งค านวณความถี่ของยีนได้ดังนี้

   2
                           2
 จ านวนต้นที่มีจีโนไทป์ AA ตามค่าที่คาดหมาย   = p   × 200       = (0.275)   × 200     2  = (0.275)   × 200
                                                                                                 2
                               จ านวนต้นที่มีจีโนไทป์ AA ตามค่าที่คาดหมาย   = p   × 200
   160   161   162   163   164   165   166   167   168   169   170