Page 25 -
P. 25
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
19
สาเหตุของโรคและการแพร่ระบาด :
เกิดจากเชื้อรา Physalospora persae ซึ่งเป็น Perfect stage ของ Diplodianat alensis
ซึ่งสปอร์จะปลิวไปกับลมหรือติดไปกับขาของแมลง
การป้องกันและกําจัด :
เมื่อเริ่มออกดอกและระยะผลอ่อนควรพ่นด้วยสารเคมี เช่น เบโนมิล 10 กรัมต่อนํ้า 20
ลิตร
17. โรครากเน่า
ลักษณะอาการ :
โรครากเน่า โดยมากมักจะเป็นกับต้นมะม่วงในระยะต้นกล้าซึ่งกําลังเพาะชําที่จะใช้เป็น
ต้นตอสําหรับการทาบกิ่ง เสียบกิ่ง เสียบยอดกับต้นแม่พันธุ์ที่ต้องการหรือเกิดเป็นกับต้นมะม่วงที่ปลูกใหม่
ในแปลงปลูก ในระยะแรกเชื้อราสาเหตุของโรคซึ่งมีการแพร่เจริญอยู่ในดินบริเวณนั้น จะเข้าทําลายราก
อ่อนๆ ที่เจริญออกมา ทําให้รากเกิดมีลักษณะอาการเน่าเป็นสีนํ้าตาลดําหรือสีดํา เมื่ออุณหภูมิและความชื้น
เหมาะสม การแพร่ระบาดของเชื้อโรคก็จะเข้าทําลายรากโดยรอบโคนต้น ทําให้รากหมดสภาพการดูดนํ้า
และแร่ธาตุอาหาร ในที่สุดลักษณะอาการก็จะแสดงออกที่ใบโดยใบจะเริ่มเหี่ยวเฉาและค่อย ๆ ร่วงหล่นลงสู่
พื้นดินไปเหลือแต่กิ่งก้าน ผลสุดท้ายก็จะยืนตายไปทั้งต้น โรคนี้ถ้าเกิดแพร่ระบาดในเรือนเพาะชําก็จะเกิด
เป็นหย่อม ๆ แล้วจะค่อยแพร่ระบาดเป็นวงกว้างออกไป
สาเหตุของโรคและการแพร่ระบาด :
โรคนี้เกิดจากเชื้อรา Phytophthora parasitica มีสปอร์หลายรูปแบบที่สามารถอยู่ข้าม
ฤดูกาลได้เป็นเวลานานและจะเจริญอยู่ในดินที่มีความชื้น เชื้อรานี้สามารถแพร่ระบาดไปกับนํ้าที่พัดพาไปสู่
แหล่งอื่น หรือติดไปกับดินเครื่องปลูกและต้นที่นําไปปลูก
การป้องกันและกําจัด :
ในแปลงเพาะชําควรราดด้วยสารเคมีให้ทั่ว เช่น เมตทาแลคซิล 20 กรัมต่อนํ้า 20 ลิตร
หรือจะใช้ เบนนาแลคซิล และออฟฟิวเรส แทนก็ได้ ต้นที่เป็นโรคต้องขุดออกไปเผาไฟทําลาย
18. โรคใบจุดสีดํา
ลักษณะอาการ :
เชื้อราสาเหตุของโรคใบจุดสีดําเกิดสปอร์ปลิวอยู่ในอากาศ เมื่อสปอร์ตกลงบนผิวของใบ
มะม่วง สปอร์ก็จะงอกเข้าชอนไชเป็นจุด ๆ เข้าสู่เนื้อเยื่อภายในของผิวใบ โดยเฉพาะใบที่เริ่มเจริญแผ่ขยาย
เต็มที่และมีสีเขียวซึ่งผิวใบยังไม่ค่อยจะแข็งแรงมากนัก เมื่อเชื้อราเข้าสู่เนื้อเยื่อก็จะทําลายเซลล์ส่วนนั้นตาย
ไป เกิดเป็นจุดสีดําขนาดเท่าหัวเข็มหมุด จุดดังกล่าวจะเกิดเป็นสีดําทั้งด้านบนและด้านล่างของผิวใบ เชื้อรา