Page 27 -
P. 27

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

                                                                                                       21


               20. โรคสะแคบ

                        ลักษณะอาการ :

                               โรคสะแคบจะมีลักษณะอาการเกิดเป็นตุ่มนูนสีนํ้าตาลอ่อนบนผิวด้านล่างของใบ จุดนูน

               ดังกล่าวเมื่อมาเชื่อมต่อกันก็จะเกิดนูนไปทั่ว ทําให้ผิวใบเกิดโป่งบวม ใบอาจโค้งงอ บิดเบี้ยวไปมา ถ้าเกิดกับ
               ก้านใบก็จะทําให้ใบร่วงได้สําหรับในกรณีที่เชื้อเข้าทําลายผล ก็จะเกิดเป็นจุดสีนํ้าตาลเข้ม เนื้อเยื่อตรงบริเวณ

               แผลจะค่อย ๆ เริ่มแข็งในที่สุดจะแห้งเกิดเป็นสะเก็ด บางครั้งสามารถแกะออกมาได้ แต่โดยทั่วไปโดยรอบ

               ของแผลจะแห้งร่อนเผยออกคล้ายจะหลุดออกได้ ซึ่งความจริงแล้วส่วนกลางสะเก็ดยังคงติดแน่นอยู่  เมื่อ
               แกะออกก็จะเกิดเป็นแผลได้ อย่างไรก็ตามตุ่มนูนนั้นส่วนมากก็จะคงลักษณะ  นูนดันผิวของใบอยู่ไม่มีการ

               แตกเป็นสะเก็ด  ถ้าใช้ใบมีดแกะตรงกลางตุ่มนูนจะพบว่าเป็นโพรงของเชื้อราเกิดอยู่อย่างหนาแน่น ส่วนที่

               ผลนั้นฝังแน่น
                        สาเหตุของโรคและการแพร่ระบาด :

                               โรคสะแคบเกิดจากเชื้อรา  Elsinoe  mangiferae  เมื่อตุ่มนูนเกิดแตกออกก็จะทําให้สปอร์

               แพร่ออกไปและงอกเข้าทําลายต่อไปได้  นํ้าเป็นพาหะที่สําคัญ

                        การป้องกันและกําจัด :
                               เมื่อพบว่าเกิดโรคนี้มากบนใบ และในระยะผลเจริญเต็มที่ก็ควรพ่นด้วยสารเคมี เช่น คาร์

               เบนดาซิม 15 กรัม ต่อนํ้า 20 ลิตร



               21. โรคกิ่งผุ

                        ลักษณะอาการ :
                               เชื้อราสาเหตุของโรคจะเข้าทําลายกิ่ง  โดยเข้าไปทางแผลตามรอยที่แมลงกัดหรือ

               โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงรอยแผลนี้ถูกทําการตัดแต่งทรงพุ่มอยู่เป็นประจําทุกปี ฉะนั้นตรงบริเวณแผลจึงเป็น

               ส่วนเปิดให้เชื้อราเจริญเข้าสู่เนื้อเยื่อของกิ่งก้านได้  เมื่อเชื้อราเข้าไปได้แล้วก็จะเจริญขยายการทําลายเซลล์

               และเนื้อเยื่อตรงบริเวณนั้น  เกิดเน่าเป็นสีนํ้าตาลดําปนสีเทา  ในที่สุดก็จะเกิดเน่าผลลุกลามมากยิ่งขึ้น
               ส่วนบนของแผลก็จะมีเชื้อราเกิดขยายเจริญงอกงามออกเป็นดอกเห็ดเล็ก ๆ สีขาว และเกิดกันอยู่เป็นกลุ่ม ๆ

               ซึ่งเชื้อราที่เป็นดอกเห็ดนี้เกิดจากเชื้อราอีกระยะหนึ่ง จึงเสริมให้เกิดการเน่าผุของกิ่งเกิดมากยิ่งขึ้นและช่วง

               เพิ่มความเสียหายเร็วขึ้น  จะเห็นได้ว่าเมื่อโรคกิ่งผุเกิดมากก็จะทําให้การเจริญงอกงามของมะม่วง เป็นไป
               อย่างช้ามาก กิ่งที่ควรจะแตกออกมาใหม่กลับชะงักงัน ผลผลิตลดลงอย่างเห็นได้ชัด

                        สาเหตุของโรคและการแพร่ระบาด :

                               เกิดจากการทําลายของเชื้อรา  Schizophyllum  commune   ซึ่งจะขยายการทําลายเข้าไปสู่
               เนื้อไม้เกิดเน่าผุ  นํ้าเป็นพาหะที่สําคัญของการแพร่ระบาดเช่นเดียวกับลม
   22   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32