Page 23 -
P. 23

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

                                                                                                       17


                        สาเหตุของโรคและการแพร่ระบาด :

                               เกิดจากเชื้อรา  Diplodia  natalensis  มีตุ่มนูนขนาดเท่าหัวเข็มหมุดสีดํา ฝังอยู่บนแผลนั้น
               ภายในมีสปอร์มาก สามารถฟุ้งกระจายไปทั่วและเข้าทําลายผลที่อยู่ใกล้เคียง

                        การป้องกันและกําจัด :

                               แช่ผลมะม่วงทันทีหลังการเก็บเกี่ยวในบอแรกซ์ 6 เปอร์เซ็นต์ นาน 3 นาที ที่อุณหภูมิ 43

               องศาเซลเซียส หรือแช่ใน ออรีโอฟูจิน 500 ppm. นาน 30 นาที จะได้ผลดีในการป้องกันและกําจัดโรคนี้


               13. โรคใบร่วง

                        ลักษณะอาการ :

                              เชื้อราเข้าทําลายใบเกิดเป็นจุดสีนํ้าตาลอ่อนบนใบ จุดจะขยายเป็นแผลขนาดใหญ่  มี

               ลักษณะและขนาดไม่แน่นอน  แผลจะเปลี่ยนเป็นสีนํ้าตาลปนเทา เมื่อโรคมีความรุนแรงมาก อาจทําให้เกิด
               แผลใหญ่ขยายมาเชื่อมติดต่อกัน  ผืนใบแห้งตายมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันก้านใบจะถูกเชื้อเข้าทําลายเกิดมี

               ลักษณะอาการเน่าเป็นสีนํ้าตาลดําและใบจะร่วงหล่นลงสู่พื้นดินเป็นส่วนใหญ่เหลือแต่กิ่ง  กิ่งอาจจะแห้งไป

               หรือเป็นเพียงส่วนน้อยที่กิ่งจะมีโอกาสแตกยอดออกมาใหม่  โรคนี้จะเกิดเป็นได้ทั้งใบที่ยังอ่อนและใบแก่

               แต่ใบแก่เป็นโรคนี้มาก เพราะผลเสียหายเกิดจากการเข้าทําลายของโรคนี้ทําให้ชะงักการเจริญเติบโต ผลิ
               ดอกออกผลน้อยมาก

                               สาเหตุของโรคและการแพร่ระบาด :

                               เกิดจากเชื้อรา  Ascochyta  mangiferae  นํ้าฝนจะพัดพาเอาสปอร์ไปแพร่ระบาดหรือปลิว
               ไปกับลม

                        การป้องกันและกําจัด :

                               พ่นด้วยสารเคมี เช่น แคปแทน 40 กรัมต่อนํ้า 20 ลิตร และตัดแต่งกิ่งที่เป็นโรคออกไป เผา
               ไฟทําลาย  รวมทั้งที่ร่วงหล่นด้วย



               14. โรคใบจุดเหลี่ยม

                        ลักษณะอาการ :

                               ใบที่เป็นโรคจะเกิดจุดเปลี่ยนที่จํากัดโดยช่องร่างแห ของเส้นใบ  แผลสีเหลืองอ่อนแต่
               เส้นใบยังเป็นสีเขียว แล้วแผลจะเปลี่ยนเป็นสีนํ้าตาล  ฉํ่านํ้า แล้วในที่สุดแผลจะแห้ง ขอบแผลจะนูนเด่น

               ขึ้นมาเล็กน้อย สีนํ้าตาลเข้ม ถัดออกไปขอบรอบนอกแผลจะสีเหลืองเล็กน้อยคล้ายถูกทาทับด้วยนํ้ามัน เมื่อ

               ส่องกับแสงแดดจะใสค่อนข้างโปร่งแสง  ส่วนใหญ่แผลมักจะเกิดตรงบริเวณของปลายใบและอาจมีรอยแตก

               หรือบิดเบี้ยว ถ้าเกิดในระยะผลิดอกออกผล ก้านของผลจะถูกเชื้อเข้าทําลาย เน่าและร่วงหล่นไป  และใน
               ขณะเดียวกันกิ่งอ่อนก็จะเป็นโรคนี้ได้เช่นกัน โรคนี้ถ้าเกิดระบาดในระยะติดผลก็จะได้รับความเสียหายมาก
   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27   28