Page 18 -
P. 18

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

                                                                                                       12


               นํ้าตาล บริเวณจุดดังกล่าวและจะมีอาการเน่าลุกลามเป็นบริเวณกว้างขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1-2 ซม. หรือ

               มากกว่านี้  แผลบริเวณนั้นอาจแตกเป็นทางยาว  เมื่อเป็นมากแผลจะยุบบุ๋มลง มีสีนํ้าตาลเข้ม และเกิดแผล
               ทั่วไปทั้งผล

                               สาเหตุของโรคและการแพร่ระบาด :

                               เกิดจากเชื้อรา Colletotrichum gloeosporioides (Glomerella cingulata) สปอร์ของเชื้อรา

               จะแพร่ปลิวไปตามลมและพายุฝน ทําให้เกิดการระบาดได้มาก ในช่วงฤดูฝนมะม่วงจะผลิใบอ่อน การทําลาย
               จะมีมากขึ้น ส่วนการแพร่ระบาดในระยะมะม่วงออกช่อประมาณเดือนธันวาคม มกราคม เมษายน ซึ่งเป็น

               ช่วงฤดูแล้ง ในระยะนี้หากมีพายุฝนเกิดขึ้น การเกิดโรคแอนแทรคโนส  บนผลก็จะรุนแรง เพราะทั้งพายุลม

               แรงและนํ้าฝนจะพัดพาสปอร์แพร่ไประบาดได้ดียิ่งขึ้น ทําให้แพร่ระบาดไปทั่วสวน
                        การป้องกันและกําจัด :

                               โรคนี้สามารถป้องกันกําจัดได้ด้วยการพ่นด้วยสารเคมี ในช่วงที่มีความชื้นและอุณหภูมิ

               เหมาะสมกับการเกิดโรคและมีโรคระบาด เช่น เบโนมีล 10 กรัมต่อนํ้า 20 ลิตร หรือ แมนโคเซบ    แมเนบ

               หรือไซเนบ อัตรา 48 กรัมต่อนํ้า 20 ลิตร และพ่นทันทีหลังการเก็บเกี่ยวแล้วผึ่งให้แห้งก่อนทําการบรรจุลง
               หีบห่อ โดยเฉพาะเพื่อการส่งออก



               4. โรคราแป้ง

                        ลักษณะอาการ :

                               ลักษณะอาการเริ่มแรกเกิดที่ใบอ่อน บริเวณเชื้อราเข้าทําลายมีสีผิดไปจากสีของเนื้อใบ
               ปกติ เช่น เขียวอ่อนออกสีชมพูจางๆ จุดถูกทําลายบนพื้นใบทําให้เกิดย่นเล็กน้อย จุดดังกล่าวมีขุยสปอร์และ

               เส้นใยของเชื้อราสีขาวขึ้นปกคลุมบาง ๆ ส่วนใหญ่จะพบใต้ใบมากกว่าบนผิวใบ ถ้ามีอากาศ ค่อนข้างเย็น

               แผลจะปรากฏเป็นขุยแห้ง สําหรับลักษณะอาการที่ช่อดอกจะปรากฏผงสีขาวขึ้นฟูตามก้านดอกและดอก ซึ่ง
               จะทําให้ดอกแข็งและร่วงไม่ติดผล ส่วนก้านช่อดอกบริเวณถูกทําลายจะยังคงมีผงสีขาวของเชื้อราขึ้นปก

               คลุมอยู่ ซึ่งต่อมาจะเปลี่ยนเป็นสีเทาอ่อนจนถึง สีนํ้าตาลอ่อนส่วนมากจะไม่ติดผล

                        สาเหตุของโรคและการแพร่ระบาด :

                               สาเหตุเกิดจากเชื้อรา Oidium  mangiferae  สปอร์ของเชื้อรานี้แพร่ระบาดได้ง่ายโดยปลิว
               ไปได้ลมเป็นพาหะที่สําคัญ ระบาดไปทั่วต้นและบริเวณใกล้เคียง

                        การป้องกันและกําจัด :

                               ในระยะที่มะม่วงออกช่อโดยปกตินั้น อากาศค่อนข้างเย็นหรืออุณหภูมิตํ่า เชื้อราก็จะแพร่

               ระบาด ฉะนั้นการใช้สารป้องกันกําจัดโรคราแป้ง จําเป็นต้องพ่นในขณะมะม่วงออกช่อและก่อนดอกบาน
               เช่น เบโนมีล 8 กรัมต่อนํ้า 20 ลิตร ไดโนแคบ 20 กรัมต่อนํ้า 20 ลิตร หรือ โฟลเพท 25 กรัมต่อนํ้า 20 ลิตร
   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23