Page 21 -
P. 21
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
15
สาเหตุของโรคและการแพร่ระบาด :
เกิดจากพืชชั้นตํ่าพวกสาหร่าย Cephaleuros virescens เมื่อแก่หรือเจริญเต็มที่จะเกิดสปอร์
และแพร่ระบาดในฤดูฝน ส่วนใบที่ถูกทําลายจะต้องเป็นส่วนที่ได้รับแสงแดด ในระยะที่พืชชั้นตํ่าดังกล่าวนี้
เจริญเติบโตจะต้องอาศัยอยู่บนพืชเท่านั้น ลมเป็นพาหะที่สําคัญในการนําสปอร์ไปแพร่ กระจายที่อื่นต่อไป
การป้องกันและกําจัด :
สําหรับโรคนี้ป้องกันได้ด้วยการพ่นสารเคมีพวกสารประกอบทองแดงที่ใช้ป้องกันกําจัด
เชื้อรา เช่น คอปเปอร์ออกซีคลอไรด์ 50 กรัมต่อนํ้า 20 ลิตร ให้ทั่วส่วนที่เป็นโรค
9. โรคกิ่งแห้ง
ลักษณะอาการ :
ที่เห็นได้ง่ายคือ กิ่งจะแห้งเหี่ยว ใบร่วงหล่นเป็นสําคัญ โดยลักษณะอาการที่เกิดขึ้นจะ
เกิดผิวเปลือกไหม้สีนํ้าตาลดําหรือจากปลายกิ่งลงมา ผิวเปลือกบางส่วนอาจจะแตกแยกออกอย่างเห็นได้ชัด
โรคจะขยายการทําลายเข้าสู่ก้านใบทําให้เน่าเป็นสีดํา ใบจะร่วงไป โรคจะลุกลามลงมาตามกิ่งเรื่อย ๆ ทําให้
ส่วนบนของกิ่งเน่าและแห้งตายลงมา ในบางครั้งตรงบริเวณที่เป็นโรคจะมียางสีนํ้าตาลปนสีเหลืองไหลซึม
ออกมา มีนํ้าหยดเกาะอยู่บนแผลนั้นทั่วไป เมื่อผ่าตรวจดูเนื้อเยื่อของไม้ภายในจะปรากฏว่าเป็นสีนํ้าตาล แต่
สําหรับที่เปลือกจะเป็นสีนํ้าตาลดํา ท่อนํ้าท่ออาหารในเนื้อไม้จะเป็นสีนํ้าตาลเข้ม เป็นทางยาวตลอดไป บาง
จุดจะมียางสีนํ้าตาลปนสีเหลืองดังกล่าวเกิดอยู่ ส่วนเยื่อเจริญที่อยู่ระหว่างเปลือกและเนื้อไม้จะเป็นสีนํ้าตาล
การเข้าทําลายของโรคนี้ทําให้มะม่วงไม่เจริญเติบโต ไม่ค่อยจะผลิตดอกออกผล
สาเหตุของโรคและการแพร่ระบาด :
เกิดจากเชื้อรา Botryodiplodia theobromae ปกติจะเกิดตุ่มนูนขนาดเท่าหัวเข็มหมุดสีดํา
ฝังอยู่ที่แผล ภายในมีสปอร์จํานวนมาก นํ้าเป็นพาหะที่สําคัญของการแพร่ระบาดเช่นเดียวกับลม
การป้องกันและกําจัด :
เมื่อพบว่าเริ่มเป็นโรคก็ต้องตัดกิ่งนั้นออกไปเผาไฟทําลายเสีย แล้วพ่นด้วยสารเคมี เช่น
แคปทาโฟล 30 กรัม ต่อนํ้า 20 ลิตร
10. โรคยางไหล
ลักษณะอาการ :
เชื้อราจะเข้าทําลายลําต้นโดยผ่านเข้าทางผิวเปลือกที่สด หรือช่องทางของแผลที่แมลง
ทําลายไว้ ที่เปลือกจะเกิดเน่าเป็นสีนํ้าตาลดํา เยื่อเจริญที่อยู่ระหว่างเปลือกและเนื้อไม้จะเป็นสีนํ้าตาล เนื้อ
ไม้ที่ถูกทําลายจะเน่าเป็นสีนํ้าตาลเข้ม เมื่อถากเนื้อไม้ดูจะพบว่า ท่อนํ้าถูกทําลายเป็นสีนํ้าตาลดํา ไม่สามารถ
ทําหน้าที่ส่งผ่านนํ้าและแร่ธาตุขึ้นไปสู่ใบได้ จึงมีผลให้ใบมีอาการเหี่ยวเฉาบริเวณแผลจะมีของเหลวเป็น