Page 46 -
P. 46
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ยุทธศาสตร์ที่ 2 พัฒนาศักยภาพและบทบาทในการบริหารจัดการสารเคมีของทุกภาคส่วน โดยการ
พัฒนาองค์ความรู้เกี่ยวกับการจัดการสารเคมี การส่งเสริมบทบาทและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อ
เตรียมพร้อมต่อพันธกรณีและข้อตกลงระหว่างประเทศ
ยุทธศาสตร์ที่ 3 ลดความเสี่ยงอันตรายจากสารเคมี โดยการก าหนดวิธีเพื่อการบรรลุยุทธศาสตร์ 3 วิธี
คือ (1) ปูองกันอันตรายจากสารเคมี เช่น ส่งเสริมการเกษตรที่ดี ควบคุมการจ าหน่ายสารเคมี ก าหนดรายชื่อ
สารเคมีที่มีความเสี่ยงสูง หรือส่งเสริมการเกษตรอินทรีย์ เป็นต้น (2) เฝูาระวังและติดตามตรวจสอบผลกระทบ
และมลพิษจากสารเคมี (3) จัดท าแผนปฏิบัติการ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินและการรักษาเยียวยาและ
ฟื้นฟู
แผนยุทธศาสตร์ฯ ฉบับที่ 4 มีการก าหนดกลไกการติดตามประเมินผล โดยอนุกรรมการ 3 คณะ ที่
แต่งตั้งโดยคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการพัฒนายุทธศาสตร์การจัดการสารเคมี ได้แก่ คณะอนุกรรมการ
ประสานนโยบายและแผนการด าเนินงานว่าด้วยการจัดการสารเคมี คณะอนุกรรมการพัฒนาและส่งเสริมความ
ปลอดภัยจากสารเคมีต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม และคณะอนุกรรมการส่งเสริมความปลอดภัยและบทบาท
ประชาชนในการจัดการสารเคมี โดยมีหน่วยงานต่างๆร่วมกันเพื่อผลักดันให้ประชาชนและภาคเอกชน มี
บทบาทในการด าเนินการด้านการจัดการสารเคมีของประเทศให้มีความปลอดภัยต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม
การพัฒนาแผนยุทธศาสตร์ฉบับที่ 4 เป็นการพัฒนาและด าเนินการต่อเนื่องจากแผนยุทธศาสตร์ฯ ฉบับที่ 3
เพื่อลดช่องว่างและก าหนดกลวิธีเชิงรุก เช่น การจัดตั้งองค์กรกลางในการจัดการสารเคมี หรือ National
Chemical Agency ซึ่งท าให้การจัดการสารเคมีมีความเป็นระบบที่ครบวงจร เพื่อเตรียมรับมือกับพันธกรณี
และข้อตกลงระหว่างประเทศ โดยเน้นการจัดการความเสี่ยงจาดสารเคมีเชิงพื้นที่ (คณะกรรมการแห่งชาติว่า
ด้วยการพัฒนายุทธศาสตร์การจัดการสารเคมี, 2554)
4.3 นโยบายและมาตรการในการจัดการศัตรูพืชที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
จากการทบทวนเอกสารที่เกี่ยวข้องกับนโยบายและมาตรการในการจัดการศัตรูพืชที่เป็นมิตรต่อ
สิ่งแวดล้อม พบว่า มีมาตรการที่เกี่ยวข้องหลักๆอยู่ 4 ประเด็น ได้แก่ 1) การจัดการศัตรูพืชแบบผสมผสาน 2)
การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (Good Agricultural: GAP) 3) การก าหนดค่าปริมาณสูงสุดของสารพิษตกค้าง
ในผลิตผลเกษตร (Maximum Residue Limits: MRLs) และ 4) ความปลอดภัยทางอาหาร (Food Safety) มี
รายละเอียด ดังนี้
4.3.1 การจัดการศัตรูพืชแบบผสมผสาน (Integrated Pest Management: IPM)
การจัดการศัตรูพืชแบบผสมผสาน หรือ IPM เป็นการเลือกวิธีการควบคุมศัตรูพืชที่มีอยู่แล้ว
ตั้งแต่ 2 วิธีขึ้นไป มาผสมผสานกัน โดยใช้การรวมวิธีทางชีววิทยา เขตกรรม กายภาพ และการใช้สารเคมีอย่าง
เหมาะสม เพื่อลดปริมาณศัตรูพืช และลดความเสี่ยงหรือเกิดความเสี่ยงน้อยที่สุดทั้งด้านเศรษฐกิจ สุขภาพ
และสิ่งแวดล้อม โดยมีวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ (1) เพื่อหลีกเลี่ยงการต้านทางสารเคมีของศัตรูพืช (2) เพื่อ
รักษาสภาพแวดล้อม (3) เพื่อสุขอนามัยของผู้ผลิต (ส านักพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตร, 2551)
31