Page 76 -
P. 76
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ในพื้นที่มีการบริหารจัดการพื้นที่ป่าชุมชน ทําแนวกันไฟ โดยจะแบ่งเขตพื้นที่ป่าชุมชนอย่างชัดเจน
และเกษตรกรสามารถใช้ประโยชน์จากประปาภูเขาในการทําการเกษตร อย่างไรก็ดี เกษตรกรที่ยังต้องการ
ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จะยังรักษาพื้นที่ไร่ข้าวโพดของตนที่อยู่ในเขตหมู่บ้านอื่นหรือเช่าที่เพื่อปลูกเพิ่มใน
หมู่บ้านอื่น
4.1.1.2 เกษตรกรผู้ปลูกมะม่วงและกลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลูกมะม่วงเพื่อการส่งออก ตําบลป่ากลาง
อําเภอปัว จังหวัดน่าน
ตําบลป่ากลางตั้งอยู่ในเขตอําเภอปัว จังหวัดน่าน ลักษณะทั่วไปของพื้นที่เป็นภูเขาเตี้ยๆประชากร
ประกอบด้วยชาติพันธุ์ ม้ง เมี่ยนและลัวะ ปัจจุบันพื้นที่ทํากินส่วนใหญ่เป็นไร่มะม่วง มีพื้นที่ปลูกมะม่วงรวม
ประมาณ 5,000 ไร่ พื้นที่ที่ใช้เพาะปลูกค่อนข้างจํากัดไม่เกิน 7 ไร่ต่อครัวเรือน พื้นที่ป่ากลางนี้มีจุดเด่นคือ
73
สภาพอากาศเหมาะกับการปลูกมะม่วง ได้มะม่วงผิวสวย ใช้ต้นทุนเฉลี่ยต่ํา และผลผลิตมีคุณภาพสูงกว่า
บริเวณอื่นๆ ของจังหวัด อย่างไรก็ตาม ข้อจํากัดของพื้นที่ คือ เกษตรกรใช้น้ําจากอ่างเก็บน้ําในการปลูกมะม่วง
และประสบปัญหาขาดแคลนน้ําในฤดูแล้งทําให้มีปัญหาการให้ปุ๋ยต้นมะม่วง
74
เกษตรกรผู้ปลูกมะม่วงในย่านบ้านป่ากลาง แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ
กลุ่มที่ 1: กลุ่มวิสาหกิจปลูกเพื่อส่งออกตลาดต่างประเทศ
กลุ่มวิสาหกิจเริ่มก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2552 ปัจจุบันเกษตรกรในกลุ่มนี้มี 23 ราย คิดเป็นร้อยละ 5 ของ
เกษตรกรผู้ปลูกมะม่วงทั้งหมดในพื้นที่ ผลผลิตที่ได้ร้อยละ 90 เป็นมะม่วงพันธุ์น้ําดอกไม้ อีกร้อยละ 10 เป็น
มะม่วงพันธุ์สีทอง เขียวเสวย พิมเสนมัน มหาชนก และโชคอนันต์ เกษตรกรเกือบทั้งหมดไม่ประกอบอาชีพอื่น
และไม่ปลูกข้าวไร่ไว้บริโภคเองเนื่องจากต้องทุ่มเทเวลาให้กับการดูแลต้นมะม่วง ตัดแต่งกิ่ง ใส่ปุ๋ย จึงเป็นกลุ่ม
เกษตรกรที่ลดหรือเลิกการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์อย่างชัดเจนสมาชิกของกลุ่มวิสาหกิจฯ ส่วนใหญ่มีพื้นที่
เพาะปลูกประมาณ 4-5 ไร่ มีรายได้สุทธิจากการปลูกมะม่วงประมาณ 20,000 บาทต่อไร่ต่อปี
เกษตรกรขายมะม่วงน้ําดอกไม้และสีทองในตลาดส่งออกเป็นหลัก ส่วนผลผลิตมะม่วงพันธุ์อื่นขายใน
ตลาดในประเทศให้พ่อค้าทั่วไป การเจรจาตกลงราคากับบริษัทส่งออกหลักซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นที่รับซื้อ
75
เพื่อส่งออกตลาดญี่ปุ่น จะเริ่มก่อนการเก็บเกี่ยวประมาณ 2 เดือนดังนั้นเกษตรกรจะทราบราคาก่อนแต่ไม่มี
สัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร ไม่มีการกําหนดปริมาณผลผลิตที่ต้องการรับซื้อ ปริมาณรับซื้อจะขึ้นอยู่กับความ
ต้องการของบริษัท ณ เวลาซื้อขาย บริษัทรับซื้อช่วยให้องค์ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพสินค้าแก่
เกษตรกรบ้าง ผลผลิตที่ส่งออกได้จะต้องผ่านมาตรฐาน GAP ปราศจากสารเคมีตกค้าง หากตรวจพบสาร
76
ตกค้าง สินค้าจะถูกตีกลับทั้งหมด สมาชิกในกลุ่มจะช่วยกันดูแลและคัดเกรดสินค้าก่อนส่งให้ผู้รับซื้อ
73
ประมาณ 5 บาทต่อ กก.
74
หมู่บ้านที่อยู่ในพื้นที่สํารวจ คือ หมู่ 1 บ้านน้ําเปิน หมู่ 3 บ้านค้างฮ้อ หมู่ 5 บ้านตาหลวง และหมู่ 6 บ้านสวนทราย
75 บริษัท Taniyama
76
ที่ผ่านมา อัตราสินค้าที่ถูกตีกลับประมาณร้อยละ 5-10 ของที่ส่งไป
4-5